ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ระบุว่า ยอดส่งออกสินค้าจากสหรัฐไปประเทศจีนในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวลดลงในอัตราเลขสองหลักในกว่า 30 รัฐของสหรัฐ ขณะที่ยอดส่งออกสินค้าจากสหรัฐไปจีนรวมทุกรัฐ ปรับตัวลดลง 15% แตะ 7.88 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลดังกล่าวระบุว่า ยอดส่งออกสินค้าจากรัฐเท็กซัสไปยังจีนปรับตัวลดลง 39% โดยรัฐเท็กซัสเป็นรัฐที่เน้นส่งออกน้ำมันและก๊าซไปจีน
ส่วนยอดส่งออกจากรัฐอลาบามา ซึ่งเน้นส่งออกยานยนต์ ปรับตัวลดลงถึง 49% ขณะที่ยอดส่งออกจากรัฐฟลอริดา ปรับตัวลดลง 40% ด้านยอดส่งออกจากรัฐเวสต์เวอร์จิเนียและวิสคอนซินปรับตัวลดลงประมาณ 25%
ผู้เชี่ยวชาญจากสภาความสัมพันธ์ต่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรของสหรัฐ เปิดเผยว่า ความต้องการสินค้านำเข้าจากสหรัฐในจีนนั้นค่อนข้างซบเซา และในบางกรณีอาจไม่มีทางฟื้นตัวดังเดิม โดยขึ้นอยู่กับผลการเจรจาการค้าเป็นหลัก
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า การเจรจาทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายยังคงติดต่อกันอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนได้จัดการประชุมทางวิดีโอระดับคณะทำงานในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่รายละเอียดและกำหนดเวลาที่จีนจะซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ เช่น เนื้อหมูและถั่วเหลือง ไปจนถึงประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา