สหรัฐกลับลำนโยบายการตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์ให้เอื้อต่ออิสราเอล

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 19, 2019 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลสหรัฐประกาศเตรียมยกเลิกจุดยืนที่ว่า การตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์นั้นขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เอื้อต่ออิสราเอล แต่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งกับชาวปาเลสไตน์

นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ เปิดเผยว่า แถลงการณ์ของรัฐบาลสหรัฐในเรื่องการตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์นั้น "ขัดแย้งกันมาเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว" โดยรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะสนับสนุนมุมมองเมื่อปี 2524 ของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน

นายปอมเปโอ เปิดเผยว่า จุดยืนก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าการตั้งถิ่นฐานของพลเรือนในพื้นที่ดังกล่าวขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศนั้น "ไม่ได้นำมาซึ่งสันติ"

นายปอมเปโอ กล่าวว่า "ความจริงที่แน่แท้คือข้อพิพาทนี้จะไม่มีการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดจากฝ่ายตุลาการ ส่วนการโต้แย้งว่าใครถูกหรือผิดในแง่ของกฎหมายระหว่างประเทศจะไม่นำมาซึ่งสันติ สิ่งนี้เป็นปัญหาทางการเมืองที่ซับซ้อนและแก้ไขได้ก็ต่อเมื่อชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์หันหน้าเจรจากัน"

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เขตเวสต์แบงก์เป็นพื้นที่หลักที่ชาวปาเลสไตน์ซึ่งเป็นชาวอาหรับ คาดหวังที่จะจัดตั้งรัฐอิสระในพื้นที่ดังกล่าว แต่พื้นที่นี้ถูกอิสราเอลยึดครองมาตั้งแต่สงครามอาหรับ-อิสราเอลเมื่อปี 2510 โดยนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล หวังที่จะผนวกรวมพื้นที่ที่ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวอาศัยอยู่

นายปอมเปโอ เน้นย้ำว่า สหรัฐ "ไม่ได้กำลังเข้ามาจัดการหรือตัดสินสถานะของเขตเวสต์แบงก์ไว้ล่วงหน้า แต่การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งล่าสุดนี้อาจเอื้อต่ออิสราเอล"

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีการตัดสินใจที่เป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับนโยบายที่มีต่อชาวปาเลสไตน์ เช่น การย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในอิสราเอลที่เมืองเทลอาวีฟไปอยู่ที่เยรูซาเลม หลังจากที่สหรัฐได้รับรองให้เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ