ทีมหาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ทางทีมงานจะห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กเข้าร่วมการหาเสียงและกิจกรรมหาเสียงอื่นๆ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้การที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้ประกาศว่าจะไม่ตรวจสอบนายไมเคิล บลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นเจ้าของสำนักข่าว รวมถึงคู่แข่งรายอื่นๆในพรรคเดโมแครตที่กำลังแข่งขันเพื่อเสนอตัวเป็นตัวแทนพรรคในศึกเลือกตั้งปีหน้า
"เรากำลังประเมินว่าเราจะประสานงานหรือตอบคำถามนักข่าวของสำนักข่าวบลูมเบิร์กหรือไม่เป็นกรณีไป" แบรด พาร์สเกล ผู้จัดการทีมหาเสียง ระบุในแถลงการณ์ "สิ่งนี้จะเป็นนโยบายประจำทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์ จนกว่าสำนักข่าวบลูมเบิร์กจะเปลี่ยนใจ"
ด้านนายจอห์น มิคเคิลธเวต บรรณาธิการใหญ่สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุในแถลงการณ์ภายหลังว่า สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้ "รายงานข่าวเกี่ยวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเป็นธรรมและไม่มีอคติ นับตั้งแต่ที่เขาเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งปธน.เมื่อปี 2558 และจะทำเช่นนั้นต่อไปแม้มีข้อจำกัดจากทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์"
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายมิคเคิลธเวตได้ระบุในบันทึกถึงพนักงานว่า สำนักข่าวบลูมเบิร์กจะไม่รายงานข่าวเจาะลึกเกี่ยวกับนายไมเคิล บลูมเบิร์ก และคู่แข่งรายอื่นๆในพรรค ขณะที่นายบลูมเบิร์กได้ก้าวขึ้นสังเวียนการเลือกตั้ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้ให้เหตุผลไว้ว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของบริษัทในการไม่ตรวจสอบนายไมเคิล บลูมเบิร์ก เหมือนสมัยที่เขาเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก และได้ต่อยอดนโยบายดังกล่าวให้ครอบคลุมคู่แข่งคนอื่น ๆ ในพรรคด้วยเพื่อความยุติธรรม
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวบลูมเบิร์กจะสืบสวนรัฐบาลของปธน.ทรัมป์ต่อไป เพราะเป็นรัฐบาลที่ทำหน้าที่อยู่ในขณะนี้ โดยนโยบายดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงหากนายบลูมเบิร์กได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรค