นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า การที่รัฐบาลสหรัฐผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงนั้น อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในฮ่องกงซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของเอเชีย
นางลัมกล่าวว่า กฎหมาย "Hong Kong Human Rights and Democracy Act" ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น ไม่จำเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่เศรษฐกิจของฮ่องกงประสบภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบ 10 ปี
"กฎหมายดังกล่าวมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น เพราะบริษัทเอกชนต่างวิตกกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐอาจใช้มาตรการในวันข้างหน้า หลังจากที่มีการทบทบกฎหมายฉบับนี้" นางลัมกล่าว
ในระหว่างการแถลงข่าวครั้งนี้ นางลัมยังได้ให้คำมั่นว่า รัฐบาลฮ่องกงจะออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งที่ 4 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ท่ามกลางวิกฤติการประท้วงที่ยืดเยื้อ
นางลัมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลฮ่องกงจะประกาศมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบใหม่ในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ดี นางลัมไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของมาตรการดังกล่าว โดยระบุเพียงว่า มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบใหม่นี้มีเป้าหมายเยียวยาภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุการณ์ประท้วง และทางรัฐบาลจะดึงหน่วยงานทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมดำเนินการ
ถ้อยแถลงของนางลัมมีขึ้นหลังจากเศรษฐกิจฮ่องกงส่งสัญญาณอ่อนแอลงอย่างมาก โดยล่าสุดยอดค้าปลีกของฮ่องกงหดตัวลงรุนแรงถึง 24.3% ในเดือนต.ค. เมื่อพิจารณาในแง่ของมูลค่า และเมื่อพิจารณาในแง่ของปริมาณพบว่า ยอดค้าปลีกหดตัวลง 26.2% ทำสถิติร่วงลงด้วยเลขสองหลักติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ทั้งในแง่มูลค่าและปริมาณ เนื่องจากผลกระทบของเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงที่ยืดเยื้อเป็นเวลานานเกือบ 6 เดือน