คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดเผยรายงานสรุปการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ปธน.ทรัมป์ได้ใช้อำนาจเพื่อเปิดทางยูเครนเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง เพื่อเพิ่มโอกาสให้ตนเองมีโอกาสชนะการเลือกตั้งในปี 2563
การเปิดเผยรายงานดังกล่าวเป็นความตั้งใจของสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องการถอดถอนปธน.ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ปธน.ทรัมป์จะถูกถอดออกจากตำแหน่งยังคงมีน้อยมาก เนื่องจากการถอดถอนผู้นำสหรัฐยังต้องการเสียงจากวุฒิสภาซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ในขณะที่สภาผู้แทนราษฎรมีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก
อนึ่ง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ประกาศเริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางการทหาร
รายงานดังกล่าวยังสรุปด้วยว่า ปธน.ทรัมป์ได้กดดันยูเครนให้เปิดการสอบสวนนายโจ ไบเดน และนายฮันเตอร์ ไบเดน ผู้เป็นบุตรชาย ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหารบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งในยูเครน ในคดีคอร์รัปชัน เพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางการทหาร รวมถึงการพบปะกับปธน.ทรัมป์ที่ทำเนียบขาว
รายงานระบุว่า "ผลการไต่สวนเพื่อถอดถอนผู้นำสหรัฐพบว่า ปธน.ทรัมป์ได้ใช้อำนาจในการเปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้งในปี 2563"
นอกจากนี้ รายงานยังระบุด้วยว่า การกระทำของปธน.ทรัมป์เป็นการล้มล้างนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ รวมถึงความมั่นคงแห่งชาติ