นายคิม ยอง โชล ประธานคณะกรรมการสันติภาพเกาหลี-เอเชียแปซิฟิกของเกาหลีเหนือ กล่าวว่า สหรัฐจะเผชิญภัยคุกคามมากขึ้นต่อความมั่นคงของประเทศ หากเมินเฉยต่อกำหนดเส้นตายที่เกาหลีเหนือกำหนดไว้ในช่วงสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กำหนดเส้นตายในช่วงสิ้นปีนี้ให้สหรัฐเสนอเงื่อนไขที่ยอมรับได้ในการทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือ มิฉะนั้นเกาหลีเหนือจะเลือก"เส้นทางใหม่"
นายคิม ยอง โชลกล่าวว่า นายคิม จอง อึน อาจมีมุมมองที่แตกต่างออกไปเกี่ยวกับการเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐ ถ้าหากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงมีท่าทีที่ก้าวร้าวต่อเกาหลีเหนือ
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่เกาหลีเหนือระบุวานนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ทำการทดลองครั้งสำคัญที่แท่นยิงขีปนาวุธ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าเป็นการทดสอบเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงเหลวสำหรับการยิงขีปนาวุธพิสัยไกล
เกาหลีเหนือระบุก่อนหน้านี้ว่าจะเดินหน้าทำการทดลองนิวเคลียร์ และการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป หากการเจรจากับสหรัฐไม่ประสบความสำเร็จภายในสิ้นปีนี้
ทางด้านนายรี ซู ยอง รองประธานคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลี (WPK) ของเกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์เตือนสหรัฐเกี่ยวกับพฤติกรรม และการใช้ถ้อยคำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
"คำพูดคำจาและการแสดงออกของนายทรัมป์ดูเหมือนเป็นการข่มขู่ผู้อื่น แต่เกิดจากการที่เขามีความกลัวอยู่ภายใน โดยทรัมป์อาจมีความวิตกอย่างมาก แต่เขาควรยอมรับความจริงที่ว่า เขาหว่านสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้น และควรคิดสองตลบ ถ้าเขาไม่อยากเห็นหายนะครั้งใหญ่ที่จะตามมา"
"ท่านคิม จอง อึน จะเป็นผู้ทำการตัดสินใจขั้นสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ และท่านไม่เคยแสดงการกระทำที่เป็นการเสียดสีผู้อื่น เหมือนที่บางคนได้กระทำ" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า "นายคิม จอง อีนมีความฉลาดมากเกินไป และมีสิ่งที่ต้องสูญเสียมากเกินไป ซึ่งก็คือทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเขามีท่าทีมุ่งร้ายต่อสหรัฐ"