นางสเตฟานี กริสแชม โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเข้าชี้แจงต่อวุฒิสภาเกี่ยวกับ 2 ข้อหาที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ยื่นถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง
"ท่านประธานาธิบดีจะชี้แจงต่อวุฒิสภาเกี่ยวกับข้อหาที่ไม่มีมูลความจริง และหวังว่าวุฒิสภาจะตัดสินให้ท่านพ้นผิด เนื่องจากท่านไม่ได้ทำสิ่งใดผิด" นางกริสแชมกล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการตุลาการประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐประกาศญัตติเกี่ยวกับการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันนี้ โดยมี 2 ญัตติ ได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสภาคองเกรส
คณะกรรมาธิการตุลาการจะลงมติต่อญัตติดังกล่าวในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะยื่นเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแบบเต็มคณะ
สื่อรายงานว่า คณะกรรมาธิการตุลาการจะลงมติต่อญัตติดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่การลงมติในสภาผู้แทนราษฎรจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
นายเจอร์โรลด์ แนดเลอร์ ประธานคณะกรรมาธิการตุลาการ กล่าวว่า "เรามีหน้าที่ในการปกป้องรัฐธรรมนูญ และปกป้องผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน ซึ่งแตกต่างจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยการที่เขามีพฤติกรรมกดดันยูเครน ได้กระทบต่อความมั่นคงของชาติ และคุกคามบูรณภาพของการเลือกตั้งของเรา"
"ตลอดการไต่สวนของเรา ประธานาธิบดีทรัมป์ได้พยายามปกปิดหลักฐานจากสภาคองเกรส และจากชาวอเมริกัน การที่เขาทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน ทำให้เขาละเมิดรัฐธรรมนูญ และเป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตย และความมั่นคงของชาติ" นายแนดเลอร์กล่าว
ทั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนต.ค. หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
นายไบเดนเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ หากปธน.ทรัมป์ประสบความสำเร็จในการสกัดนายไบเดนออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ปธน.ทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย