คณะกรรมาธิการตุลาการประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทำการอภิปรายในวันนี้เกี่ยวกับ 2 ญัตติในการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสภาคองเกรส
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการตุลาการจะลงมติต่อญัตติดังกล่าวในวันนี้ และหากคณะกรรมาธิการให้การอนุมัติต่อทั้ง 2 ญัตติ ก็จะมีการยื่นเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแบบเต็มคณะในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะทำให้ปธน.ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐเป็นรายที่ 3 ที่จะถูกสภาคองเกรสพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่ง
หากสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นพ้องกันว่าปธน.ทรัมป์มีการใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสภาคองเกรส วุฒิสภาสหรัฐก็จะรับหน้าที่ไต่สวนปธน.ทรัมป์ในเดือนหน้า
อย่างไรก็ดี การที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ทำให้ปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มรอดพ้นจากการถูกถอดถอนในครั้งนี้
ทั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนต.ค. หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
นายไบเดนเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ หากปธน.ทรัมป์ประสบความสำเร็จในการสกัดนายไบเดนออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ปธน.ทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย