คณะกรรมาธิการตุลาการประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติ 23-17 เสียงให้ความเห็นชอบต่อญัตติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันนี้ ส่งผลให้สภาผู้แทนราษฎรเต็มคณะจะพิจารณาญัตติดังกล่าวในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะทำให้ปธน.ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐรายที่ 3 ที่จะถูกสภาคองเกรสพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ 2 ญัตติในการถอดถอนปธน.ทรัมป์ ได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสภาคองเกรส
คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติต่อญัตติดังกล่าวในวันพุธหน้า และหากสภาผู้แทนราษฎรเห็นพ้องกันว่าปธน.ทรัมป์มีการใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสภาคองเกรส วุฒิสภาสหรัฐก็จะรับหน้าที่ไต่สวนปธน.ทรัมป์ในเดือนหน้า
อย่างไรก็ดี การที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ทำให้ปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มรอดพ้นจากการถูกถอดถอนในครั้งนี้
ทั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนต.ค. หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
นายไบเดนเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ หากปธน.ทรัมป์ประสบความสำเร็จในการสกัดนายไบเดนออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ปธน.ทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย