โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติอิหร่าน (SNSC) ออกมาแสดงความเห็นถึงโอกาสในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐ ผ่านการแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างกันเมื่อเร็ว ๆ นี้
หนังสือพิมพ์เตหะรานไทม์สของอิหร่าน รายงานว่า นายเคย์วาน โคสวารี โฆษก SNSC ได้เปิดเผยถึงการดำเนินการแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างอิหร่านกับสหรัฐว่าไม่ใช่ "เส้นทางใหม่" ที่จะนำไปสู่การเจรจาร่วมกันแต่อย่างใด
"การแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งนี้ไม่ได้มาจากการเจรจากับสหรัฐ แต่เกิดขึ้นจากแนวทางด้านมนุษยธรรมของอิหร่านเอง และก็ไม่ใช่การเริ่มต้นเส้นทางใหม่อะไรทั้งนั้น" นายโคสวารีกล่าว พร้อมเสริมว่า "นี่เป็นเพียงจุดสิ้นสุดของสถานการณ์ยากลำบากที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องถูกจองจำอันเนื่องมาจากการกระทำที่อยู่นอกเหนือกฎหมายโดยสหรัฐ"
การแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายไบรอัน ฮุค ผู้แทนพิเศษของสหรัฐประจำอิหร่าน ออกมาเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า การแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน จะนำไปสู่การเจรจาที่กว้างขึ้นเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองฝ่าย
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ก็ได้ทวีตขอบคุณอิหร่านที่ยอมแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ โดยข้อความในทวีตของผู้นำสหรัฐระบุว่า ขอบคุณอิหร่านสำหรับการเจรจาต่อรองที่มีความยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง เห็นมั้ย เราสามารถทำข้อตกลงร่วมกันได้!
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สหรัฐและอิหร่านได้ตกลงกันที่จะแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ 2 ราย ได้แก่ นายซียื่อ หวาง นักวิจัยชาวอเมริกันเชื้อสายจีนที่ถูกตัดสินว่าเป็นสายลับในอิหร่าน และนายมาสซุด โซเลมานี ผู้เชี่ยวชาญด้านสเต็มเซลล์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าด้วยการส่งออกวัตถุด้านชีววิทยาให้กับอิหร่าน ขณะที่หลายฝ่ายมองว่านี่เป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนักสำหรับการดำเนินการภายใต้ความร่วมมือกันของทั้ง 2 ประเทศ