นักการทูตของสหภาพยุโรป (EU) รายหนึ่งกล่าวว่า EU จะต้องเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อังกฤษอาจแยกตัวจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit) หลังนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมออกกฎหมายป้องกันไม่ให้มีการขยายเวลาช่วงเปลี่ยนผ่านของอังกฤษหลังจากแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) เกินสิ้นปี 2563
"จุดยืนของ EU ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เราต้องการเจรจาเพื่อให้มีข้อตกลงที่ดีกับอังกฤษ แต่ถ้าอังกฤษจำกัดทางเลือกของตัวเอง และเดินไปสู่ภาวะ no-deal Brexit ในช่วงสิ้นปีหน้า EU ก็จะต้องเตรียมพร้อมรับมือ และพร้อมที่จะลดผลกระทบต่อประเทศสมาชิก" เขากล่าว
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญกล่าวเช่นกันว่า เป็นเรื่องยากที่ EU และอังกฤษจะได้ข้อสรุปในการทำข้อตกลงการค้าในเวลาไม่ถึง 1 ปี
ทั้งนี้ สื่อรายงานว่า นายจอห์นสันเตรียมออกกฎหมายป้องกันไม่ให้มีการขยายเวลาช่วงเปลี่ยนผ่านของอังกฤษหลังจากแยกตัวจากสหภาพยุโรปเกินสิ้นปี 2563 ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอังกฤษอาจแยกตัวจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง
นายจอห์นสันจะเพิ่มบทบัญญัติหนึ่งเข้าไปในร่างกฎหมาย Brexit ซึ่งจะระบุห้ามการขยายช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของอังกฤษเกินกว่าเดือนธ.ค.2563 หลังจากที่อังกฤษแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ม.ค.2563
รายงานดังกล่าวสร้างความวิตกว่าระยะเวลา 11 เดือนที่เหลืออยู่จะไม่เพียงพอสำหรับการเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและ EU ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะ no-deal Brexit
สื่อระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลอังกฤษมีวัตถุประสงค์เพื่อกดดัน EU ในการเจรจาการค้า และเพื่อเร่งกระบวนการทำข้อตกลงการค้า
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน อังกฤษจะยังคงอยู่ภายใต้กฎหมายของ EU เหมือนกับประเทศสมาชิกอื่นๆของ EU แต่อังกฤษจะไม่มีสิทธิส่งตัวแทนเข้าไปนั่งในองค์กรต่างๆของ EU
ปัจจุบัน ช่วงการเปลี่ยนผ่านดังกล่าวสามารถขยายออกไปเป็นเวลา 2 ปี หากได้รับความเห็นชอบจากทั้งอังกฤษและ EU