นายแดน เยอร์กิน ประธานบริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน กล่าวว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) หรือที่รู้จักกันในนามของ ISIS หรือกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและซีเรีย (Islamic State of Iraq and Syria) จะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน หลังจากที่สหรัฐใช้ปฎิบัติการทางทหารสังหารนายทหารระดับสูงของอิหร่าน ส่งผลให้กองกำลังนานาชาติที่นำโดยสหรัฐประกาศระงับปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่ม ISIS
ทั้งนี้ กองทัพสหรัฐใช้ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศต่อท่าอากาศยานนานาชาติกรุงแบกแดดของอิรักในสัปดาห์ที่แล้ว จนทำให้นายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่าน และนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส รองผู้นำกองกำลังฮาชด์ชาบี (Hashd Shaabi) ของอิรัก เสียชีวิต
ทางด้านอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศพร้อมตอบโต้สหรัฐ ขณะที่นายอาเดล อับดุล มาห์ดี รักษาการนายกรัฐมนตรีอิรัก กล่าวประณามการโจมตีดังกล่าว โดยมองว่าเป็นการแสดงความก้าวร้าวต่อรัฐบาลและชาวอิรัก ส่วนรัฐสภาอิรักได้ผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนการถอนกองกำลังต่างชาติออกจากอิรัก และป้องกันไม่ให้กองกำลังต่างชาติใช้น่านน้ำหรือน่านฟ้าของอิรักในการปฏิบัติการทางทหาร
"มีผู้ที่ได้รับชัยชนะจากเรื่องนี้ และผู้ชนะก็คือ ISIS เนื่องจากจะไม่มีกองกำลังสหรัฐและอิหร่านในการสกัดกลุ่ม ISIS และหากทหารสหรัฐถอนตัวออกจากภูมิภาคดังกล่าว ก็จะถือเป็นข่าวดีสำหรับอิหร่านและ ISIS" นายเยอร์กินกล่าว