ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องในวันนี้ให้วุฒิสภาสหรัฐปฏิเสธญัตติถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่าญัตติดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ให้การอนุมัติต่อ 2 ญัตติในการถอดถอนปธน.ทรัมป์ ซึ่งได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส ซึ่งทำให้ปธน.ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 3 ที่ถูกสภาผู้แทนฯ ลงมติถอดถอนอย่างเป็นทางการ และจะเผชิญกับการไต่สวนในวุฒิสภาเป็นลำดับต่อไป
อย่างไรก็ดี การที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ทำให้ปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มรอดพ้นจากการถูกถอดถอนในวุฒิสภา
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า ข้อกล่าวหาจากสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรที่ระบุว่า ปธน.ทรัมป์ใช้อำนาจในทางมิชอบ ไม่ใช่ความผิดที่สามารถถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง
ปธน.ทรัมป์ยังระบุว่า ข้อกล่าวหาในการขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส เป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย และอันตราย
ทั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
นายไบเดนเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ หากปธน.ทรัมป์ประสบความสำเร็จในการสกัดนายไบเดนออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ปธน.ทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย