อัยการแคนาดา ได้เรียกร้องให้ศาลแคนาดามีคำตัดสินให้ส่งตัวนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ไปดำเนินคดีในสหรัฐในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยทางการสหรัฐตั้งข้อกล่าวหาว่า นางเมิ่งกระทำความผิดฐานฉ้อโกงธนาคาร และละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐบังคับใช้ต่ออิหร่าน
นายโรเบิร์ต เฟรเตอร์ อัยการแคนาดา เปิดเผยว่า นางเมิ่ง หว่านโจว มีพฤติกรรมเข้าข่ายฉ้อโกงธนาคารตามข้อกล่าวหาของรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากนางเมิ่งมีการพูดเท็จต่อธนาคารเพื่อประโยชน์บางอย่าง จึงเป็นเหตุสมควรให้ส่งตัวผู้บริหารรายนี้ไปดำเนินคดีในสหรัฐ
ขณะที่ทีมทนายความของนางเมิ่ง หว่านโจว เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร ไม่ใช่การฉ้อโกง โดยทางการสหรัฐได้พยายามตั้งข้อหาฉ้อโกง เพื่อเป็นข้ออ้างให้แคนาดารีบส่งตัวนางเมิ่งไปสหรัฐ
ทั้งนี้ ศาลแคนาดาทำการไต่สวนกรณีส่งตัวนางเมิ่งไปดำเนินคดีในสหรัฐในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยทางการสหรัฐตั้งข้อกล่าวหาว่า นางเมิ่งมีพฤติกรรมหลอกลวงในกรณีลักลอบทำข้อตกลงทางธุรกิจกับอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐบังคับใช้ต่ออิหร่านในช่วงปี 2552-2557 ขณะที่นางเมิ่งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และเดินหน้าต่อสู้คดีที่แคนาดาจะส่งตัวเธอให้กับสหรัฐ
นางเมิ่งได้ถูกทางการแคนาดาจับกุมตัวที่สนามบินนานาชาติแวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2561 ตามคำเรียกร้องของสหรัฐซึ่งกล่าวหาว่า นางเมิ่งลักลอบทำข้อตกลงทางธุรกิจกับอิหร่าน ด้วยการใช้บริษัทสกายคอม ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อบังหน้าในการทำธุรกิจกับอิหร่าน อีกทั้งยังชี้นำธนาคารเอชเอสบีซีในทางที่ผิดเกี่ยวกับธุรกิจของหัวเว่ยในอิหร่าน
การจับกุมตัวนางเมิ่งได้สร้างรอยร้าวระหว่างจีนและแคนาดา โดยทางการจีนได้เน้นย้ำถึงข้อเรียกร้องที่ต้องการให้แคนาดาปล่อยตัวนางเมิ่ง ขณะที่ทางการสหรัฐ จีน และแคนาดา ต่างก็จับตาการพิจารณาคดีของนางเมิ่งอย่างใกล้ชิด