วุฒิสภาสหรัฐเตรียมลงมติครั้งสำคัญในวันนี้ ซึ่งจะชี้ชะตาอนาคตทางการเมืองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐมีกำหนดลงมติในวันนี้ต่อญัตติในการเรียกสอบพยานเพิ่มในคดีถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง โดยสมาชิกพรรคเดโมแครตต้องการให้มีการสอบพยานเพิ่ม โดยเฉพาะนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ
อย่างไรก็ดี สมาชิกพรรครีพับลิกันคัดค้านการเรียกสอบพยานเพิ่มในคดีดังกล่าว
แหล่งข่าวระบุว่า หากเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภาลงมติคว่ำญัตติการเรียกสอบพยานเพิ่มในวันนี้ ก็จะส่งผลให้คดีการถอดถอนปธน.ทรัมป์ในวุฒิสภาปิดฉากเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยหากวุฒิสภาลงมติคว่ำญัตติการเรียกสอบพยานเพิ่มในวันนี้ ก็จะทำให้มีการลงมติในญัตติที่ว่าจะถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่งหรือไม่ โดยการลงมติในญัตติดังกล่าวอาจเกิดขึ้นทันทีในวันนี้ หรือพรุ่งนี้
ทั้งนี้ คาดว่าวุฒิสภาจะลงมติคัดค้านการถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ขณะที่การลงมติจำเป็นต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของวุฒิสมาชิกจำนวน 100 คน ส่งผลให้พรรคเดโมแครตมีแนวโน้มประสบความพ่ายแพ้ในความพยายามถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.เห็นชอบต่อการถอดถอนปธน.ทรัมป์ใน 2 ข้อหา ซึ่งได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส ซึ่งทำให้ปธน.ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 3 ที่ถูกสภาผู้แทนฯ ลงมติถอดถอนอย่างเป็นทางการ และเผชิญกับการไต่สวนในวุฒิสภา
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
นายไบเดนเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ ซึ่งหากนายไบเดนถูกสกัดให้ออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. ปธน.ทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย