คณะทำงาน"ทรัมป์"เสนอให้ขายน้ำมัน 15 ล้านบาร์เรลจากคลัง SPR เพื่อเป็นงบประมาณปี 64

ข่าวต่างประเทศ Tuesday February 11, 2020 11:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ยื่นคำเสนอในแผนงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ 2564 ของทำเนียบขาวซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนต.ค.ปีนี้จนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า โดยเสนอให้ขายน้ำมันดิบ 15 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR)

ข้อเสนองบประมาณดังกล่าวซึ่งต้องได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสนั้น ได้เรียกร้องให้กระทรวงพลังงานขายน้ำมันดิบ 15 ล้านบาร์เรลจากคลัง SPR เพื่อเป็นกองทุนให้กับกระทรวงอื่นที่มีความสำคัญ รวมถึงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของแหล่งน้ำมันในเอล์คฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า SPR นับเป็นคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาบกลางสหรัฐในช่วงปี 2513 โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อลดผลกระทบจากการหยุดชะงักของการจัดหาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม

ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา มีการใช้น้ำมันจากคลัง SRP เพียง 3 ครั้ง ล่าสุดคือเมื่อปี 2554 ที่สหรัฐนำน้ำมันดิบออกจาก SPR ในปริมาณ 30 ล้านบาร์เรลเพื่อชดเชยปริมาณน้ำมันที่หายไปจากตลาดเนื่องจากการหยุดชะงักของการส่งน้ำมันในลิเบีย

ณ วันที่ 31 ม.ค. 2563 คลัง SPR มีปริมาณน้ำมันดิบ 635 ล้านบาร์เรล โดยแบ่งเป็นน้ำมันดิบแบบ sour crude ในปริมาณ 384.7 ล้านบาร์เรล และน้ำมันดิบแบบ sweet crude ในปริมาณ 250.3 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ ในการยื่นของบประมาณที่ผ่านมา คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ยังได้ขอให้ยกเลิกการใช้งานคลังน้ำมันสำรองทางตะวันออกเฉียงเหนือ (NGSR) และขายน้ำมันกลั่น 1 ล้านบาร์เรลที่เก็บอยู่ที่นั่น

รายงานระบุว่า "NGSR มีต้นทุนค่าบำรุงรักษาสูงมากและไม่ได้ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ต้องการ และไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมสำหรับการชดเชยปริมาณน้ำมันที่หายไป ตัวอย่างเช่น คลังสำรองดังกล่าวสามารถชดเชยปริมาณความต้องการน้ำมันในรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือได้เพียง 1 วันเท่านั้น"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ