อัยการสหรัฐกล่าวหาบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ของจีนว่า ขโมยความลับทางการค้า และให้ความช่วยเหลืออิหร่านในการติดตามตัวผู้ประท้วงในการยื่นฟ้องร้องล่าสุดกับบริษัทหัวเว่ย ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวยิ่งเป็นการดำเนินการที่เพิ่มความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับหัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก
การฟ้องร้องดังกล่าวซึ่งมาแทนที่คดีฟ้องร้องที่ยังไม่ได้ตัดสินเมื่อปีที่แล้วในศาลของรัฐบาลกลางในเมืองบรูคลิน รัฐนิวยอร์กนั้น บริษัทหัวเว่ยได้ถูกตั้งข้อหาว่า ร่วมสมคบคิดเพื่อขโมยความลับทางการค้าจากบริษัทเทคโนโลยี 6 แห่งของสหรัฐ และละเมิดกฎหมายด้านการฉ้อโกงที่ใช้ในการปราบปรามองค์กรอาชญากรรม
การฟ้องร้องดังกล่าวยังรวมถึงข้อกล่าวหาใหม่ๆ เกี่ยวกับการที่หัวเว่ยมีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศต่างๆ ที่ถูกคว่ำบาตร โดยระบุว่าหัวเว่ยได้ติดตั้งอุปกรณ์เฝ้าระวังในอิหร่านซึ่งใช้ในการตรวจสอบ, ชี้ตัว และควบคุมตัวผู้ประท้วงในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิหร่านที่กรุงเตหะรานเมื่อปี 2552
สหรัฐได้ใช้มาตรการต่อต้านหัวเว่ย โดยเตือนว่าหัวเว่ยอาจจารกรรมข้อมูลลูกค้าให้กับรัฐบาลจีน โดยสหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยเมื่อปีที่แล้ว โดยระบุว่าหัวเว่ยเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ