มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดออกแถลงการณ์ปฏิเสธไม่ขอรับเงินจากกองทุนช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อการศึกษาระดับสูงภายใต้รัฐบัญญัติกฎหมายประกันสุขภาพ (CARES Act Higher Education Emergency Relief Fund) เพื่อเป็นการตอบโต้ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยคืนทุนดังกล่าว
ฮาร์วาร์ดระบุในแถลงการณ์ว่า "ฮาร์วาร์ดจะไม่รับเงินช่วยเหลือที่มาจากกองทุนช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อการศึกษาระดับสูงภายใต้รัฐบัญญัติกฎหมายประกันสุขภาพ แม้เราจะได้รับการจัดสรรเงินช่วยเหลือภายใต้รัฐบัญญัติกฎหมายประกันสุขภาพ เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ แต่เราก็ไม่ได้ยื่นขอความช่วยเหลือ หรือแม้แต่เรียกร้อง ได้รับ หรือนำเงินจากกองทุนมาใช้แต่อย่างใด"
"แม้ก่อนหน้านี้ เราจะเคยออกมาพูดว่า ฮาร์วาร์ดต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการเงินจากสถานการณ์โรคระบาดและวิกฤตเศรษฐกิจเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ แต่เราก็มีความกังวลอยู่ว่าการที่นักการเมืองและบุคคลอื่นๆ มุ่งความสนใจมายังเรื่องที่มหาวิทยาลัยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ซึ่งอาจเป็นการบ่อนทำลายการมีส่วนร่วมในความพยายามบรรเทาทุกข์ตามกฎหมายที่ผ่านการลงนามจากท่านประธานาธิบดีและรัฐบาล ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะมอบความช่วยเหลือแก่นักเรียนและสถาบันการศึกษาที่อาจต้องเผชิญวิกฤตทางการเงินครั้งร้ายแรงที่สุดในอีกไม่นานนี้" แถลงการณ์ระบุ
ข้อความในแถลงการณ์ระบุต่อไปว่า "เมื่อพิจารณาจากเหตุผลดังกล่าว และวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกองทุนช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อการศึกษาระดับสูงแล้ว ฮาร์วาร์ดจึงตัดสินใจไม่ขอรับเงินสนับสนุนที่ได้รับการจัดสรรมาตามกฎหมาย"
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างจากรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ฮาร์วาร์ดได้เผยแพร่แถลงการณ์ฉบับนี้ออกมา หลังจากที่ ปธน.ทรัมป์ ออกมาตำหนิว่ามหาวิทยาลัยนำเงินจากกองทุนช่วยเหลือผลกระทบโควิด-19 ไปมอบให้กับพนักงาน ขณะที่เงินในกองทุนที่มอบให้กับฮาร์วาร์ดนั้นมาจากแหล่งเงินทุนที่แยกออกต่างหากจากรัฐบาลกลางภายใต้โครงการช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด-19 ตามรัฐบัญญัติประกันสุขภาพ
รายงานระบุว่า ปธน.ทรัมป์ประกาศระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่า "ผมต้องการให้ฮาร์วาร์ดคืนเงินเหล่านั้นมา และพวกเขาก็ไม่ควรได้รับเงินก้อนนี้"
ทั้งนี้ ฮาร์วาร์ดเป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่ออกมาปฏิเสธไม่รับเงินจากกองทุนช่วยเหลือของรัฐบาล เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันและมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด