นางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันเปิดเผยหลังพิธีรับตำแหน่งสมัยที่ 2 ในวันนี้ที่ทำเนียบประธานธิบดี โดยนางไช่ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะเจรจากับจีน แต่ยืนยันว่าจะไม่รับนโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ"
สุนทรพจน์ของนางไช่มีใจความตอนหนึ่งที่สะท้อนจุดยืนดังกล่าวว่า "ข้าพเจ้าต้องการย้ำอีกครั้งถึงสันติภาพ ความเสมอภาค ประชาธิปไตย และการเจรจา แต่จะไม่ยอมรับนโยบาย 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' ของรัฐบาลจีนเพื่อลดสถานะของไต้หวันและลดทอนอำนาจตามสถานะที่เป็นอยู่ ฉะนั้น เราจะยังคงยืนหยัดในหลักการนี้ต่อไป"
ทั้งนี้ จีนใช้การปกครองแบบหนึ่งประเทศ สองระบบเพื่อมอบอำนาจในการปกครองตนเองให้แก่ฮ่องกง ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาก่อนที่จะส่งมอบคืนให้จีนเมื่อปี 2540 โดยจีนได้ยื่นข้อเสนอนี้แก่ไต้หวันด้วยเช่นกัน ท่ามกลางกระแสคัดค้านของบรรดาพรรคการเมืองไต้หวันส่วนใหญ่
นางไช่ได้เริ่มเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 แล้วในวันนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างกว้างขวาง หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
อย่างไรก็ตาม ไต้หวันภายใต้การปกครองของนางไช่ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ต้องเผชิญหน้ากับจีนที่มุ่งจะบั่นทอนความพยายามของไต้หวันในการเรียกร้องการยอมรับจากนานาชาติ และเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐที่กำลังตึงเครียดมากขึ้น
ทั้งนี้ ความสำเร็จของไต้หวันในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ได้รับการชมเชยจากประชาคมโลก อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นความสนใจในกรณีที่ไต้หวันถูกเพิกเฉยจากองค์กรอนามัยโลก (WHO) และความพยายามของจีนในการกีดกันไต้หวัน