จีนเสนอกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ฮ่องกงต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติโดยเร็ว ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับย่อซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกงเอง
กฎหมายใหม่ดังกล่าวจะให้อำนาจรัฐสภาของจีนในการจัดทำกรอบกฎหมาย และบังคับใช้กลไกทางกฎหมายเพื่อป้องกันและลงโทษการกบฎ, การก่อการร้าย, การแบ่งแยกดินแดน และการแทรกแซงของต่างชาติ หรือการกระทำใดๆ ที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ
ทั้งนี้ นายหวัง เฉิน รองประธานคณะกรรมาธิการประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ได้อธิบายเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าวในที่ประชุม NPC ครั้งที่ 13 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม
นายหวังกล่าวว่า นับตั้งแต่ฮ่องกงกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีน จีนได้ใช้หลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ", "ชาวฮ่องกงปกครองฮ่องกง" และการให้อำนาจระดับสูงในการปกครองตนเอง
เอกสารของนายหวังระบุว่า หลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในฮ่องกง
แต่ความเสี่ยงด้านความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในฮ่องกงได้กลายเป็นปัญหาที่สำคัญ โดยระบุถึงกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการท้าทายอย่างรุนแรงต่อหลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ", เป็นภัยต่อกฎหมาย และคุกคามอำนาจอธิปไตยของชาติ ตลอดจนผลประโยชน์ด้านความมั่นคงและการพัฒนา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการตามกฎหมายเพื่อป้องกัน, ยับยั้ง และลงโทษกิจกรรมเหล่านั้น
มาตรา 23 ของกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกงกำหนดว่า ฮ่องกงจะออกกฎหมายของตนเองเพื่อห้ามการก่อกบฎ, การแยกตัว, การจลาจล, การโค่นล้มรัฐบาล, การจารกรรมความลับของรัฐบาล, การห้ามองค์กรหรือหน่วยงานด้านการเมืองต่างชาติจากการจัดกิจกรรมทางการเมืองในฮ่องกง และห้ามองค์กรหรือหน่วยงานทางการเมืองของฮ่องกงจากการสร้างความสัมพันธ์กับองค์กรหรือหน่วยงานทางการเมืองของต่างชาติ
นับเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วหลังจากที่ฮ่องกงกลับมาอยู่ภายใต้จีน แต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องดังกล่าวยังไม่ถูกกำหนดขึ้น เนื่องจากการก่อวินาศกรรม และการขัดขวางของผู้ที่พยายามจะสร้างปัญหาในฮ่องกงและจีน
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ของฮ่องกงในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องมีความพยายามในระดับรัฐเพื่อสร้างและปรับปรุงระบบกฎหมายและกลไกการบังคับใช้สำหรับฮ่องกงเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานะที่ไร้การป้องกันในระยะยาวในด้านความมั่นคงของชาติ
กฎหมายนี้จะช่วยพัฒนาการสร้างสถาบันเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติตามรัฐธรรมนูญของจีนและกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง, ช่วยเสริมสร้างการทำงานเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ และสร้างความมั่นใจว่าการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนตามหลัก "หนึ่งประเทศสองระบบ"