บทวิจารณ์จากสำนักข่าวซินหัวซึ่งเป็นสำนักข่าวของรัฐบาลจีน ได้วิจารณ์การลงนามในกฎหมายดังกล่าวว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าสหรัฐบ้าอำนาจและสองมาตรฐาน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อปลายเดือนที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างกฎหมายเรียกร้องให้คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดมาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่จีนที่ต้องรับผิดชอบกับการกดขี่ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ของจีน
ทั้งนี้ สภาผู้แทนฯสหรัฐได้อนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 413 เสียง โดยมีผู้คัดค้านเพียง 1 เสียง และร่างกฎหมายนี้จะถูกส่งให้กับทำเนียบขาวเพื่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
ร่างกฎหมายนี้เรียกร้องให้มีการลงโทษกับผู้รับผิดชอบในการปราบปรามชาวอุยกูร์ และชาวมุสลิมกลุ่มอื่นๆ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายเฉิน ฉงกู เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ของซินเจียง และสมาชิกคณะกรรมการกรมการเมืองของจีนที่ต้องรับผิดชอบกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นต้นของชาวอุยกูร์
นายมาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันซึ่งผลักดันกฎหมายนี้กล่าวว่า "สภาคองเกรสได้ส่งสานส์อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลจีนไม่สามารถกระทำความผิดใดๆ โดยไม่ต้องรับโทษ"
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนได้ตึงเครียดมากขึ้น ขณะที่ปธน.ทรัมป์ตำหนิจีนที่ทำให้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เลวร้ายลง