สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Axios ว่า ตนได้สั่งชะลอการใช้มาตรการคว่ำบาตรจีนกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ชั่วคราว เนื่องจากกังวลว่ามาตรการดังกล่าวจะเข้ามาแทรกแซงการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
ปธน.ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลทั้งสองประเทศกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาการค้าครั้งใหญ่ ซึ่งตนก็ได้บรรลุข้อตกลงที่ยอดเยี่ยม โดยอ้างว่าจีนจะสั่งซื้อสินค้าสหรัฐในวงเงินที่คาดว่าจะมากถึง 2.5 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงการค้าเฟสแรกซึ่งจีนและสหรัฐได้ลงนามร่วมกันเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมานั้น จีนได้ตกลงที่จะเพิ่มคำสั่งซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐในช่วง 2 ปีข้างหน้าอีกอย่างน้อย 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงสินค้าเกษตรมูลค่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้สหรัฐมียอดขาดดุลการค้ากับจีนลดลง
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมายคว่ำบาตรจีนกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ โดยกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐได้วิจารณ์จีนว่าทรมานและข่มเหงชาวอุยกูร์ ขณะที่ทางการจีนปฏิเสธว่าไม่เคยทำเช่นนั้น พร้อมแสดงความไม่พอใจและขู่ตอบโต้
ในช่วงปลายเดือนพ.ค.ปีนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างกฎหมายเรียกร้องให้คณะบริหารของปธน.ทรัมป์กำหนดมาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่จีนที่ต้องรับผิดชอบกับการกดขี่ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ของจีน
ร่างกฎหมายนี้เรียกร้องให้มีการลงโทษกับผู้รับผิดชอบในการปราบปรามชาวอุยกูร์ และชาวมุสลิมกลุ่มอื่นๆ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายเฉิน ฉงกู เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ของซินเจียง และสมาชิกคณะกรรมการกรมการเมืองของจีนที่ต้องรับผิดชอบกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นต้นของชาวอุยกูร์