สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายลงโทษธนาคารของจีนที่ทำธุรกิจกับเจ้าหน้าที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายความมั่นคงซึ่งจีนเพิ่งบังคับใช้กับฮ่องกง และเป็นกฎหมายที่ถูกมองว่าบั่นทอนเอกราชของฮ่องกง
ร่างกฎหมายดังกล่าวคล้ายกับมาตรการที่วุฒิสภาสหรัฐเพิ่งอนุมัติไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะต้องรอให้วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายใหม่นี้ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามต่อไป
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพื่อแสดงถึงการสนับสนุนฮ่องกงซึ่งเพิ่งถูกจีนบังคับใช้กฎหมายที่รัฐบาลสหรัฐมองว่าเป็นกฎหมายที่โหดร้าย เนื่องจากละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน
นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า "ฮ่องกงที่อิสระนั้นเคยเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสถียรภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และมีพลวัตมากที่สุดในโลก แต่บัดนี้จะกลายเป็นแค่อีกเมืองที่ถูกปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งประชาชนจะถูกปกครองตามความต้องการของกลุ่มชนชั้นสูงของพรรค"
ภายใต้นโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ของจีน ฮ่องกงได้รับสิทธิและเสรีภาพในฐานะเขตปกครองตนเองเป็นเวลา 50 ปีนับตั้งแต่อังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้กับจีนในปี 2540
สหรัฐได้ให้คำมั่นในการใช้ "มาตรการแข็งกร้าว" เพื่อจัดการกับความพยายามในการ "ทำลาย" เสรีภาพและเอกราชของฮ่องกง โดยสหรัฐจะกดดันให้รัฐบาลจีนล้มเลิกการใช้กฎหมายดังกล่าว
ขณะเดียวกัน สหรัฐเองก็ได้ให้สิทธิพิเศษกับฮ่องกงที่แยกจากจีนในด้านต่างๆ อาทิ ภาษีศุลกากรและการออกวีซ่า โดยการปฏิบัติดังกล่าวถือเป็นพื้นฐานสำหรับบทบาทของฮ่องกงในฐานะจุดหมายปลายทางการลงทุนที่น่าดึงดูดใจ และเป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ
แต่เนื่องจากจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงซึ่งอาจทำลายเสรีภาพของฮ่องกง ดังนั้น สหรัฐจึงได้เริ่มยกเลิกสิทธิพิเศษที่ให้กับฮ่องกง
นายปอมเปโอ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า "เราจะดำเนินการตามคำสั่งของปธน.ทรัมป์ต่อไป เพื่อยุติสถานะพิเศษของฮ่องกง"