นายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ยืนยันในวันนี้ว่า รัฐบาลออสเตรเลียได้ตัดสินใจระงับข้อตกลงการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่ทำร่วมกับฮ่องกงและจีน
นายมอร์ริสันแถลงต่อสื่อมวลชนที่บริเวณหน้าทำเนียบนายกรัฐมนตรีว่า กฏหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่จีนบังคับใช้ในฮ่องกงนั้น ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลทั่วโลก
นอกเหนือจากการระงับข้อตกลงการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว นายมอร์ริสันกล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะเปิดโอกาสให้กับพลเมืองฮ่องกงที่ต้องการย้ายถิ่นอาศัย ให้สามารถนำทักษะความรู้ ธุรกิจ และทุกสิ่งที่พลเมืองเหล่านี้เคยมีภายใต้กฎระเบียบเดิมในฮ่องกง เข้าไปยังดินแดนออสเตรเลียได้ โดยนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชาวฮ่องกงที่ถือวีซ่าชั่วคราวในออสเตรเลียจะได้รับอนุญาตให้ถือวีซ่าอายุ 5 ปี ซึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่การได้สิทธิ์เป็นพลเมืองถาวรหลังจากสิ้นสุดระยะเวลา 5 ปีของการถือครองวีซ่าประเภทดังกล่าว
"เราจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า เราได้ให้ความช่วยเหลือชาวฮ่องกงที่ยื่นขออนุญาตเข้ามายังออสเตรเลียเพื่อการศึกษาหรือทำงานในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศนี้ และเพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะในภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้จะนำไปสู่การให้สิทธิ์การเป็นพลเมืองถาวร
ทางด้านนายอลัน ทูดจ์ รักษาการรัฐมนตรีฝ่ายกิจการรับผู้อพยพของออสเตรเลียกล่าวในการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วยว่า นักเรียนจากฮ่องกงทั้งในปัจจุบันและอนาคตจะได้รับวีซ่าผู้สำเร็จการศึกษาประเภทอายุ 5 ปีทันทีที่สำเร็จการศึกษา ส่วนผู้ที่ถือวีซ่าผู้สำเร็จการศึกษาแล้ว ก็สามารถยื่นขอรับวีซ่าผู้มีทักษะชั่วคราวประเภทอายุ 5 ปีได้
รายงานระบุว่า ขณะนี้มีพลเมืองฮ่องกงอาศัยอยู่ในออสเตรเลียประมาณ 10,000 คน
ในระหว่างการแถลงข่าววันนี้ นายมอร์ริสันได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกงว่า เป็นกฎหมายที่บ่อนทำลายกฎหมายสากล และจะทำให้มีพลเมืองจำนวนมากถูกส่งตัวไปรับโทษที่จีน
"ในมุมมองของเรานั้น กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่จีนบังคับใช้ในฮ่องกง ถือเป็นการทำลายหลักการ 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' อย่างสิ้นเชิง และเป็นการละเมิดข้อตกลงร่วมระหว่างจีนและอังกฤษเมื่อครั้งที่มีการส่งมอบฮ่องกงคืนสู่จีน" นายมอร์ริสันกล่าว