รัฐบาลอังกฤษยืนยันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการที่อังกฤษตัดสินใจสั่งห้ามการใช้งานอุปกรณ์ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ในโครงข่ายโทรศัพท์มือถือระบบ 5G ของอังกฤษ
นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขของอังกฤษเปิดเผยว่า "เราทุกต่างก็รู้จักปธน.ทรัมป์ ใครๆ ก็สามารถอ้างเครดิตในการตัดสินใจเรื่องนี้ แต่ในความเป็นจริง นี่เกิดขึ้นจากการประเมินทางเทคนิคโดยศูนย์รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติของเราเอง"
การแสดงความเห็นของนายแฮนค็อกมีขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ ออกมาระบุว่า เขาเป็นคนทำให้ประเทศต่างๆ รวมถึง อังกฤษ ตัดสินใจแบนอุปกรณ์ของหัวเว่ย ขณะที่นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า การตัดสินใจดังกล่าว ทำให้อังกฤษได้ร่วมเป็นหนึ่งในหลายประเทศทั่วโลกที่ยืนหยัดเพื่อความมั่นคงของประเทศ ด้วยการห้ามใช้อุปกรณ์จากบริษัทที่มีความเสี่ยงสูงและไม่น่าไว้ใจ
ข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุว่า ประเทศต่างๆที่ได้ร่วมแบนหัวเว่ยจากโครงข่าย 5G ได้แก่ สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก โปแลนด์ โรมาเนีย และสวีเดน
เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้ตัดสินใจห้ามการใช้อุปกรณ์ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ในเครือข่ายโทรศัพท์มือถือระบบ 5G ของอังกฤษ อันเนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคง โดยการตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษถือเป็นการกลับลำจากมติก่อนหน้านี้ซึ่งอนุญาตให้หัวเว่ยมีบทบาทที่จำกัดในเครือข่าย 5G ของอังกฤษ