โฮเวิร์ด บอชเนอร์ บรรณาธิการบริหารวารสารสมาคมการแพทย์แห่งอเมริกา (Journal of the American Medical Association หรือ JAMA) ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกบนเว็บไซต์ เพื่อแสดงการสนับสนุนนายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ โดยความเคลื่อนไหวของบอชเนอร์เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทำเนียบขาวได้พยายามที่จะลดบทบาทของนายแพทย์ฟอซี แม้ว่าเขามีตำแหน่งเป็นถึงนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาวก็ตาม
บอชเนอร์ ซึ่งเรียกนายแพทย์แอนโทนี ฟอซีว่า "โทนี" ได้กล่าวในจดหมายเปิดผนึกว่า "ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อนสนิทคนหนึ่งได้ตั้งคำถามว่า จะมีใครสักคนไหมที่กล้าออกมาปกป้องโทนี ซึ่งตอนแรกผมมองว่า โทนีไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากผม เพราะผมเชื่อว่าเขาจะสามารถฝ่ามรสุมทางการเมืองไปได้ แต่ต่อมา ผมกลับพบว่า ผมคิดผิด"
"เสียงนินทา การพูดประชดประชัน และการโจมตีที่มาจากทั้งทำเนียบขาวและหน่วยงานอื่นๆ ที่พุ่งเป้าไปยังโทนีนั้น ไม่เพียงแต่จะเป็นการกระทำที่ไม่สมควรและไร้ความเป็นธรรมเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงการขาดความรับผิดชอบต่อสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอเมริกันทุกคน นอกจากนี้ ยังจะเป็นการทำลายล้างกันในท้ายที่สุด"
"เราทราบกันดีว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในทุกรัฐ ทุกแวดวงการเมือง ไม่ว่าจะฝั่งรีพับลิกันหรือเดโมแครตก็ตาม แต่พฤติกรรมการบ่อนทำลายหลักการทางวิทยาศาสตร์ การโจมตีนักวิทยาศาสตร์และบุคลากรด้านสาธารณสุขนั้น ทำให้ชีวิตของประชาชนทั้งประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง"
"โทนีได้อุทิศตัวรับใช้ในงานด้านสาธารณสุขมาเป็นเวลานานกว่า 40 ปี เขายึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะปรับปรุงและดูแลรักษาด้านสุขภาพและสาธารณสุขในประเทศนี้ โดยใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นแนวทางในการทำงาน เขามีเป้าหมายเดียวคือฟื้นฟูระบบสาธารณสุขของอเมริกา เพื่อให้กลไกในสังคมทำงานต่อไปได้อีกครั้ง ด้วยการเปิดโรงเรียน เปิดให้มีการเดินทางโดยไม่มีการควบคุม กิจกรรมทางสังคม และความเจริญรุ่งเรืองของภาคธุรกิจ เขาสมควรได้รับการขอบคุณและการสนับสนุนจากพวกเราเป็นอย่างยิ่ง"
"ทุกท่านที่อ่านจดหมายฉบับนี้ ไม่ว่าท่านจะมาจากแวดวงใดก็ตาม กรุณาล้างมือของท่าน รักษาระยะห่างจากผู้อื่นตามสมควร สวมหน้ากากอนามัย และโปรดเข้าร่วมกับผมในการแสดงความนับถือต่อนายแพทย์แอนโทนี ฟอซี และเพื่อนร่วมงานของเขาที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH), ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ตลอดจนเพื่อนร่วมงานทั่วประเทศ ซึ่งเป็นความหวังสูงสุดของพวกเราในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้" บอชเนอร์ระบุในจดหมายเปิดผนึก
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของบอชเนอร์บ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นที่จะยืนเคียงข้างนายแพทย์ฟอซี หลังจากสื่อมวลชนหลายแขนง ซึ่งรวมถึงวอชิงตันโพสต์ ได้เปิดเผยข้อมูลวงในระบุว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มองข้ามความสำคัญของนายแพทย์ฟอซี แม้แพทย์ใหญ่ทำเนียบขาวผู้นี้มีบทบาทสำคัญอย่างมากในต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม
สื่อระบุว่า นายแพทย์ฟอซีไม่ได้รับเชิญให้สรุปรายงานข้อมูลแก่ประธานาธิบดีทรัมป์ และไม่ได้เข้าร่วมประชุมในห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาวมาเป็นเวลานานแล้ว นอกจากนี้ รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า นายแพทย์ฟอซีไม่ได้พูดคุยกับปธน.ทรัมป์มาตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
นับตั้งแต่โควิด-19 ระบาดทั่วสหรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างนายแพทย์ฟอซีกับทำเนียบขาว โดยเฉพาะกับปธน.ทรัมป์เองนั้น เป็นไปอย่างตึงเครียด อันเนื่องมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับนโยบายการป้องกันโรคโควิด-19 โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ นายแพทย์ฟอซีได้ออกมาแสดงความกังวลว่า สหรัฐกำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอีกครั้ง อันเนื่องมาจากการที่สหรัฐไม่เคยปิดประเทศโดยสิ้นเชิง