นายสตีเฟน บีกัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาสหรัฐว่า มีสาเหตุหลัก 3 ประการที่ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งดำเนินการโต้ตอบจีนครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการสั่งปิดสถานกงสุลจีนที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส "ประการแรกคือ การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนทำการจารกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ประการที่สองคือการคุกคามโดยผ่านระบบแลกเปลี่ยนนักศึกษา และการที่สามคือ พฤติกรรมของนักการทูตที่สถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตันที่ขัดต่อแนวปฏิบัติทางการทูต" นายบีกันกล่าว
ทั้งนี้ นายบีกันไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่เปิดเผยว่า จะมีการรายงานข้อมูลที่อ่อนไหวให้สมาชิกสภาคองเกรสทราบต่อไป
ขณะที่นายมาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน และรักษาการประธานคณะกรรมการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ที่ต่อต้านจีนอย่างสุดโต่ง ได้ทวีตข้อความว่า สถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตันไม่ใช่สถานที่ทางการทูต แต่เป็นศูนย์รวมสายลับแหล่งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สหรัฐได้จับกุมตัวแฮกเกอร์ชาวจีน 2 รายในข้อหาแฮกข้อมูลที่เป็นความลับทางการค้ามูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ รวมถึงข้อมูลของบริษัทอีกหลายแห่งทั่วโลก และองค์กรที่วิจัยวัคซีนโควิด-19
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะสั่งปิดสถานกงสุลของจีนในสหรัฐเพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้สั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน อันเนื่องมาจากข้อกล่าวหาที่ว่าจีนกระทำการจารกรรมข้อมูลลับ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ให้เหตุผลอย่างเจาะจงว่าเพราะเหตุใดจึงสั่งให้ปิดสถานกงสุลในเมืองฮิวสตัน แต่ก็กล่าวเป็นนัยว่า เกิดจากการกระทำที่น่าสงสัยของจีน หลังจากมีรายงานว่า มีการจุดไฟเผาเอกสารในบริเวณสนามของสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
"ผมเดาว่า พวกเขากำลังเผาเอกสารหรือกระดาษ ซึ่งผมก็สงสัยว่าเอกสารเหล่านั้นคืออะไร" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว