นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐวิจารณ์ผู้นำจีนว่าเป็นทรราชที่ก้มหัวให้กับระบอบเผด็จการของโลก ซึ่งทำให้ทิศทางของประเทศมืดมน ขณะที่มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน
นายปอมเปโอกล่าวที่หอสมุดประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันในเมืองยอร์บา ลินดา รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง "ไม่ได้ถูกลิขิตให้มากดขี่ข่มเหงประชาชนภายในประเทศและนอกประเทศจีนไปตลอด ถ้าหากเราไม่ยินยอม" พร้อมกล่าวเสริมว่า "การปกป้องเสรีภาพจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นภารกิจของเรา"
นายปอมเปโอกล่าวว่า "เราเป็นประเทศที่รักเสรีภาพ เราจะต้องชักจูงให้จีนเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ขึ้น เพราะการกระทำของจีนคุกคามประชาชนและความเจริญรุ่งเรืองของเรา"
นอกจากนี้ เขายังระบุว่าพฤติกรรมของรัฐบาลจีนเป็นรูปแบบของการปกครองแบบเผด็จการใหม่ ที่ประกอบด้วยการปฏิบัติด้านการค้าที่ไม่เป็นธรรม การดำเนินการทางทหารที่แข็งกร้าว และการละเมิดสิทธิมนุยชน
นายปอมเปโอระบุว่า "เราต้องยอมรับความจริงที่ยากลำบากว่า ไม่สามารถดำเนินกระบวนทัศน์แบบเดิมในการมีส่วนร่วมกับจีนแบบปิดหูปิดตาได้อีกต่อไป เราจะต้องไม่ทำแบบเดิม เราจะไม่กลับไปเป็นแบบเดิม" พร้อมทั้งย้ำว่า สหรัฐควรเข้าไปมีส่วนร่วมและเสริมพลังให้กับประชาชนจีน นอกเหนือจากการร่วมมือกับประเทศต่างๆ ที่ต้องเผชิญหน้ากับจีน
นายปอมเปโอแสดงสุนทรพจน์ดังกล่าว หลังจากที่สหรัฐพยายามกดดันจีนในประเด็นต่างๆ เช่น การแสดงท่าทีอหังการในทะเลจีนใต้ การปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ ตลอดจนการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของฮ่องกง
ทั้งนี้ ล่าสุดสหรัฐได้สั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน โดยอ้างว่าเป็นศูนย์กลางของการจารกรรมและการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ