นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี กล่าวว่า ตุรกีกำลังพิจารณาที่จะตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเรียกตัวเอกอัครราชทูตกลับประเทศ หลังจากที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศตุรกีออกแถลงการณ์ระบุว่า ประวัติศาสตร์จะไม่มีวันให้อภัยต่อพฤติกรรมที่ไม่จริงใจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการทำข้อตกลงดังกล่าว
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านออกแถลงการณ์ประณามการทำข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอิสราเอลและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
"ข้อตกลงดังกล่าวเป็นยุทธศาสตร์ที่โง่เขลาของอาบูดาบีและเทลอาวิฟ ซึ่งจะทำให้กระแสต่อต้านในภูมิภาคมีความแข็งแกร่งขึ้น" แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ยังระบุว่า การที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลถือเป็นการกระทำที่อันตราย และเตือนอิสราเอลมิให้แทรกแซงกิจการภายในของประเทศในอ่าวอาหรับ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศวานนี้ว่า อิสราเอลและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ตกลงกันที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตสู่ระดับปกติ ขณะที่อิสราเอลจะระงับแผนการผนวกดินแดนในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งชาวปาเลสไตน์อ้างกรรมสิทธิ์ครอบครอง
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นับเป็นชาติแรกในอ่าวอาหรับที่ได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล และเป็นประเทศที่ 3 ในโลกอาหรับ ต่อจากอียิปต์และจอร์แดน ที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล