ฮ่องกงเตรียมฟ้อง WTO กรณีถูกสหรัฐคว่ำบาตร

ข่าวต่างประเทศ Tuesday August 18, 2020 21:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เปิดเผยในวันนี้ว่า ฮ่องกงจะยื่นเรื่องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) กรณีที่สหรัฐคว่ำบาตรฮ่องกง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นางแคร์รี ลัม กล่าวในการแถลงข่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ฮ่องกงเป็นสมาชิก WTO ที่มีความเป็นอิสระ และกล่าวว่า การดำเนินการของสหรัฐเป็นการละเมิดกฎกติกาและระเบียบปฏิบัติต่างๆ ของ WTO พร้อมทั้งระบุด้วยว่า การคว่ำบาตรของสหรัฐ "ไม่เป็นธรรมโดยสิ้นเชิง"

อย่างไรก็ดี นางแคร์รี ลัม กล่าวว่า แม้ถูกคว่ำบาตร แต่ฮ่องกงก็จะยังคงเดินหน้านำเสนอจุดแข็งต่างๆ ให้แก่บริษัทของสหรัฐที่สนใจจัดตั้งธุรกิจในฮ่องกง โดยเฉพาะความได้เปรียบจากเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า และในด้านบริการทางการเงิน

ขณะเดียวกัน นางแคร์รี ลัม ยังได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงถูกใช้เป็นเครื่องมือ และเน้นย้ำว่ากฎหมายดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติและเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่พำนักอาศัยในฮ่องกง

ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงกล่าวต่อไปว่า ประเทศตะวันตกบางประเทศต่างหากที่ใช้ระบบการเงินเป็นเครื่องมือในการคว่ำบาตรฮ่องกง นอกจากนี้ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบางแพลตฟอร์มก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการล้วงข้อมูลหรือนำข้อมูลส่วนตัวของชาวฮ่องกงออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของจีนและฮ่องกงจำนวน 11 ราย ซึ่งรวมถึงนางแคร์รี ลัม เพื่อตอบโต้กรณีที่จีนออกกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง โดยระบุว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นการริดรอนเสรีภาพในฮ่องกง

คำสั่งคว่ำบาตรดังกล่าวจะส่งผลให้มีการอายัดทรัพย์สินในสหรัฐของบุคคลที่มีรายชื่อถูกคว่ำบาตร และบุคคลเหล่านี้จะไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆกับชาวอเมริกัน

ด้านทางการจีนได้ออกมาตอบโต้ทันควันในอีกไม่กี่วันต่อมา ด้วยการประกาศคว่ำบาตรนักการเมืองสหรัฐ 11 คน ซึ่งรวมถึงนายเท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน และนายมาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน

ขณะที่ในวันนี้มีรายงานว่า นางแคร์รี ลัม กำลังประสบปัญหาการใช้บัตรเครดิต อันเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตร โดยนางแคร์รี ลัม ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CGTN ของทางการจีนว่า เธอไม่ได้รับความสะดวกในการใช้บัตรเครดิต อย่างไรก็ดี นั่นเป็นสิ่งที่เธอคาดไว้อยู่แล้ว พร้อมระบุด้วยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลกลางของจีนในการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ