นางมอร์แกน ออร์ทากัส โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐได้ยกเลิกสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน รวมถึงยุติการยกเว้นภาษีเงินได้จากการเดินเรือระหว่างประเทศที่เคยทำไว้กับฮ่องกง เนื่องจากสหรัฐมีความกังวลเกี่ยวกับการที่รัฐบาลจีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ซึ่งบั่นทอนเสรีภาพของชาวฮ่องกง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายการคว่ำบาตรจีน เพื่อตอบโต้จีนที่แทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหาร เพื่อยุติการให้สถานะพิเศษทางการค้าแก่ฮ่องกงด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงต้นเดือนส.ค. รัฐบาลสหรัฐยังได้ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของจีนและฮ่องกงจำนวน 11 ราย ซึ่งรวมถึงนางแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เนื่องจากรัฐบาลปธน.ทรัมป์ไม่พอใจกับการที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง โดยระบุว่าเป็นการริดรอนเสรีภาพของชาวฮ่องกง
กฎหมายดังกล่าวประกาศใช้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา แม้ได้รับเสียงคัดค้านอย่างหนักจากทั้งชาวฮ่องกงและต่างประเทศ ซึ่งกังวลกันว่ากฎหมายนี้จะบั่นทอนเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง
คำสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนและฮ่องกงดังกล่าว จะส่งผลให้มีการอายัดทรัพย์สินในสหรัฐของบุคคลที่มีรายชื่อถูกคว่ำบาตร และพวกเขาจะไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ กับชาวอเมริกัน
ทางการจีนได้ออกมาตอบโต้ทันควันในอีกไม่กี่วันต่อมาด้วยการประกาศคว่ำบาตรนักการเมืองสหรัฐ 11 คน ซึ่งรวมถึงนายเท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน และนายมาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน
นอกจากนี้ ยังมีรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า นางแคร์รี ลัม กำลังประสบปัญหาการใช้บัตรเครดิต อันเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลสหรัฐประกาศคว่ำบาตร โดยนางแคร์รี ลัม ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CGTN ของทางการจีนว่า เธอไม่ได้รับความสะดวกในการใช้บัตรเครดิต อย่างไรก็ดี นั่นเป็นสิ่งที่เธอคาดไว้อยู่แล้ว พร้อมทั้งระบุด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลกลางของจีนในการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา