สื่อต่างประเทศรายงานว่า ติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยมของจีน เตรียมที่จะยื่นฟ้องดำเนินคดีอย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์ที่จะถึงนี้กับคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐที่ห้ามประชาชนและบริษัทสหรัฐใช้บริการหรือทำธุรกิจกับติ๊กต็อก และไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การฟ้องร้องทางกฎหมายเกี่ยวข้องกับคำสั่งบริหารของปธน.ทรัมป์ที่ลงนามเมื่อวันที่ 6 ส.ค. เพื่อสั่งให้รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐแจกแจงรายการธุรกรรมที่เกี่ยวกับไบต์แดนซ์และบริษัทโฮลดิ้งส์ในเครือซึ่งจะถูกห้ามการดำเนินธุรกรรมใดๆ หลังจาก 45 วัน
แหล่งข่าวระบุว่า ติ๊กต็อกวางแผนที่จะโต้แย้งคำสั่งบริหารของปธน.ทัรมป์ฉบับวันที่ 6 ส.ค.ซึ่งอิงกับกฎหมายว่าด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ ซึ่งลิดรอนสิทธิของติ๊กต็อกในการได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรมทางด้านกฎหมาย
นอกจากนี้ ติ๊กต็อกจะโต้แย้งที่ทำเนียบขาวจัดประเภทธุรกิจของติ๊กต็อกว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติด้วย
ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า ติ๊กต็อกวางแผนจะยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐที่ศาลแห่งใด โดยก่อนหน้านี้ ติ๊กต็อกระบุว่ากำลังทำการสำรวจทางเลือกต่างๆ ทางด้านกฎหมาย และพนักงานของติ๊กต็อกก็ได้เตรียมที่จะฟ้องร้องรัฐบาลทรัมป์ด้วย
อย่างไรก็ตาม การยื่นฟ้องของติ๊กต็อกดังกล่าวจะไม่ช่วยให้ไบต์แดนซ์รอดพ้นจากการต้องขายกิจการของติ๊กต็อกในสหรัฐ เพราะการฟ้องร้องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับคำสั่งบริหารของปธน.ทรัมป์ฉบับลงวันที่ 14 ที่สั่งให้ไบต์แดนซ์ขายกิจการของติ๊กต็อกในสหรัฐ ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล
ปธน.ทรัมป์ได้ออกคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยให้เวลาไบต์แดนซ์ 90 วันเพื่อขายธุรกิจของติ๊กต็อกในสหรัฐ
ทั้งนี้ ไบต์แดนซ์มีความคืบหน้าในการเจรจากับบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปและบริษัทออราเคิลเกี่ยวกับการขายกิจการติ๊กต็อก โดยนักลงทุนสหรัฐบางรายของไบต์แดนซ์อาจเข้าร่วมเสนอซื้อกิจการของติ๊กต็อกด้วย