ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ประกาศล็อกดาวน์สหรัฐเป็นรอบที่ 2 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
คำกล่าวของปธน.ทรัมป์มีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษออกมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อวานนี้
"อังกฤษประกาศชัตดาวน์อีกแล้ว แต่เราจะไม่ดำเนินการเช่นนั้น เพราะเรามีความเข้าใจต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 และรู้วิธีการจัดการกับมัน" ปธน.ทรัมป์กล่าว
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวต่อรัฐสภาอังกฤษวานนี้ว่า อังกฤษกำลังถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ซึ่งเขาจะต้องดำเนินการในขณะนี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี นายจอห์นสันปฏิเสธที่จะประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งที่ 2 เหมือนที่เคยดำเนินการในเดือนมี.ค.
"เรากำลังทำการตัดสินใจ และใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อสร้างความสมดุลต่อการรักษาชีวิตประชาชน รวมทั้งปกป้องการจ้างงานและการดำเนินชีวิตของประชาชน" นายจอห์นสันกล่าว
ในการแถลงต่อรัฐสภาวานนี้ นายจอห์นสันได้กล่าวถึงมาตรการที่รัฐบาลแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้แก่ การให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน หากสามารถทำได้, ผับและร้านอาหารจะต้องปิดร้านตั้งแต่เวลา 22.00 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้, ประชาชนห้ามรวมกลุ่มกันมากกว่า 6 คน, มีการกำหนดสถานที่มากขึ้นที่บังคับให้ประชาชนจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และมีการกำหนดบทลงโทษสำหรับภาคธุรกิจและประชาชนที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล
นายจอห์นสันยังเตือนว่ารัฐบาลจะบังคับใช้มาตรการดังกล่าวเป็นเวลา 6 เดือน หากยังไม่มีความคืบหน้าใหม่ๆในด้านการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 และรัฐบาลจะใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น
ทางด้านนายแพทริก แวลแลนซ์ ที่ปรึกษารัฐบาลอังกฤษ กล่าวว่า ขณะนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในอังกฤษเพิ่มขึ้น 2 เท่าในทุก 7 วัน ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะทำให้อังกฤษมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 50,000 รายต่อวันภายในกลางเดือนหน้า และจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 รายต่อวัน
ขณะนี้ อังกฤษมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมเกือบ 4 แสนราย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 4 หมื่นราย
อย่างไรก็ดี มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุ 200,000 รายแล้ว โดยจำนวนผู้เสียชีวิตในสหรัฐได้เพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่มีผู้เสียชีวิต 100,000 รายในช่วง 4 เดือนแรกของการแพร่ระบาด
นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐมีจำนวนมากกว่าทหารสหรัฐที่ได้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 รวมกับสงครามในเวียดนาม
ขณะเดียวกัน สหรัฐมีอัตราผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 จำนวน 61.09 รายต่อประชากร 100,000 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 11 ของโลก
ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยมากกว่า 43,300 รายในแต่ละวัน โดยเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และมีผู้เสียชีวิตรายใหม่มากกว่า 750 รายในแต่ละวัน
ทางด้านพญ.ไซรา มาแดด ผู้อำนวยการโครงการวิจัยเชื้อโรคของโรงพยาบาลนิวยอร์ก กล่าวว่า "จำนวนผู้เสียชีวิตที่เราเห็นนี้เป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง หลังจากที่เราเผชิญการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพียง 9 เดือน"