ผลสำรวจความเห็นของประชาชนในสหรัฐที่รับชมการดีเบตรอบแรกระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ทางสถานีโทรทัศน์ CNN พบว่า 6 ใน 10 ของผู้รับชมการดีเบตมองว่า นายไบเดนอภิปรายได้ดีที่สุด และมีเพียง 28% เท่านั้นที่มองว่า ปธน.ทรัมป์อภิปรายได้ดีที่สุด
ผลการสำรวจในครั้งนี้คล้ายคลึงกับเมื่อครั้งที่มีการดีเบตในปี 2559 ระหว่างปธน.ทรัมป์ และนางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งผลปรากฏว่า 62% ของผู้รับชมการดีเบตมองว่า นางฮิลลารีทำผลงานได้ดีที่สุดในการดีเบต และมีเพียง 27% เท่านั้นที่มองว่า ปธน.ทรัมป์อภิปรายได้ดีที่สุด
ผลสำรวจระบุว่า ประมาณ 2 ใน 3 ของผู้ชมการดีเบตกล่าวว่า ในภาพรวมนั้นคำตอบของนายไบเดนมีความน่าเชื่อถือมากกว่าปธน.ทรัมป์ (ไบเดน 65%, ทรัมป์ 29%) และการพูดโจมตีของนายไบเดนที่มีต่อทรัมป์นั้น ผู้ชมส่วนใหญ่มองว่ามีความยุติธรรม โดย 69% มองว่าการโจมตีของไบเดนมีความยุติธรรม ขณะที่มีเพียง 32% ที่มองว่า การโจมตีของทรัมป์ต่อไบเดนนั้น มีความยุติธรรม
ในการสำรวจยังพบว่า ผู้รับชมการดีเบตส่วนใหญ่ชื่นชมการอภิปรายของนายไบเดน โดยกล่าวว่า พวกเขาเชื่อในคำพูดของนายไบเดนมากกว่าปธน.ทรัมป์ในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงประเด็นการเหยียดเชื้อชาติ (เชื่อไบเดน 66%, เชื่อทรัมป์ 29%), ประเด็นระบบประกันสุขภาพ (เชื่อไบเดน 66%, เชื่อทรัมป์ 32%), ประเด็นการระบาดของไวรัสโควิด-19 (เชื่อไบเดน 64% เชื่อทรัมป์ 34%) และประเด็นการเสนอชื่อผู้พิพากษาศาลฎีกา (เชื่อไบเดน 54%, เชื่อทรัมป์ 43%)
ส่วนในประเด็นเศรษฐกิจนั้น 50% ของผู้ชมการดีเบตกล่าวว่า พวกเขาชอบการอภิปรายของไบเดน ขณะที่ 48% ชอบการอภิปรายของทรัมป์
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังระบุว่า 57% ของผู้รับชมกล่าวว่า การดีเบตครั้งแรกนี้ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกประธานาธิบดีของพวกเขา
ผลสำรวจหลังการดีเบตดังกล่าวจัดทำโดย SSRS ผ่านการสัมภาษณ์ผู้ชมทางโทรศัพท์ และรวมถึงการสัมภาษณ์ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 568 คนที่ชมการดีเบตรอบแรก โดยผลการสำรวจอาจมีความคลาดเคลื่อนบวกลบไม่เกิน 6.3%