หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน มีกำหนดเดินทางเยือนไทยในวันที่ 14-15 ต.ค. โดยจะเดินทางถึงไทยในคืนวันนี้ และมีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ ตามวาระงานประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ในเว็บไซต์ของรัฐบาล ระบุว่า ในเวลา 11.15 น. นายหวัง อี้ จะเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
อย่างไรก็ดี เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ตั้งข้อสังเกตว่า การพบปะกันระหว่างนายหวัง อี้ และพล.อ.ประยุทธ์ในวันพรุ่งนี้ อาจประสบปัญหา ขณะที่คณะราษฎรได้ทำการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล
"การเดินทางเยือนไทยของนายหวัง อี้ เป็นการแสดงว่าจีนให้การสนับสนุนรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่รัฐบาลกำลังเผชิญข้อเรียกร้องจากฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย" นายเซบาสเตียน สแตรนจิโอ นักวิเคราะห์อิสระกล่าว
นอกจากนี้ นายสแตรนจิโอยังกล่าวว่า การเดินทางเยือนไทยของนายหวัง อี้ เป็นการยืนยันว่าจีนจะยังคงสนับสนุนรัฐบาลไทย ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้ และเป็นการแสดงบทบาทที่สำคัญของจีนต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย
ขณะเดียวกัน การที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนไทยก็มีจุดประสงค์เพื่อย้ำเตือนสหรัฐว่าจีนเป็นชาติมหาอำนาจในภูมิภาคนี้
นายพอล แชมเบอร์ ซึ่งเป็นผู้บรรยายและที่ปรึกษาพิเศษของมหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า "การเดินทางเยือนของนายหวัง อี้จะให้ความสำคัญต่อประเด็นภูมิรัฐศาสตร์และการป้องกันประเทศมากกว่าในอดีต"
นายแชมเบอร์คาดว่านายหวัง อี้จะผลักดันให้ไทยซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของจีนมากขึ้น รวมทั้งจะโน้มน้าวให้รัฐบาลไทยเห็นพ้องกับจุดยืนของจีนเกี่ยวกับทะเลจีนใต้
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า นายหวัง อี้อาจต้องการลงนามกับรัฐบาลไทยในสัญญาซื้อรถไฟความเร็วสูงของจีนมูลค่า 380 ล้านดอลลาร์เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ความยาว 252 กิโลเมตร ในการเดินทางเยือนไทยในครั้งนี้