การเมืองสหรัฐกำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. โดยเหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็จะเป็นการชี้ชะตาว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน หรือนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต จะได้ครอบครองทำเนียบขาว
ทั้งนี้ การดีเบตรอบสุดท้ายระหว่างปธน.ทรัมป์และนายไบเดนจะมีขึ้นในวันนี้เวลา 21.00-22.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพรุ่งนี้เวลา 08.00-09.30 น.ตามเวลาไทย
การดีเบตดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่ผลสำรวจของทุกสำนักต่างฟันธงว่านายไบเดนจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งทำให้ปธน.ทรัมป์ต้องฉวยโอกาสดีเบตในครั้งนี้เพื่อสร้างคะแนนนิยมในตัวเขาก่อนที่จะสายเกินไป
ในการดีเบตรอบแรก ปธน.ทรัมป์ใช้วิธีการพูดสอดแทรกเพื่อขัดจังหวะการกล่าวของนายไบเดน ซึ่งก็ได้ประสบความสำเร็จ แต่ก็สร้างความเบื่อหน่ายต่อชาวอเมริกันโดยทั่วไป ทำให้ในการดีเบตรอบสุดท้ายนี้ คณะกรรมการจัดการดีเบตให้อำนาจพิธีกรในการปิดเสียงของผู้เข้าร่วมดีเบต ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งกำลังกล่าวอยู่
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ได้เตรียมรับมือกฎกติกาใหม่ดังกล่าวในการดีเบตครั้งนี้ ด้วยการเลือกที่จะตอบในสิ่งที่อยากตอบ รวมทั้งการเปิดแผลของนายไบเดนเกี่ยวกับการทำธุรกิจในจีนและยูเครนของนายฮันเตอร์ ซึ่งเป็นลูกชายของนายไบเดน
การดีเบตในครั้งนี้จะมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยเบลมอนต์ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี โดยมีคริสเทน เวลเกอร์เป็นพิธีกร
หัวข้อในการแสดงวิสัยทัศน์ในการดีเบตรอบนี้ ได้แก่ การแก้ปัญหาโควิด-19, ภาวะการเป็นผู้นำสหรัฐ, ความขัดแย้งด้านเชื้อชาติในสหรัฐ, การแก้ไขปัญหาโลกร้อน รวมทั้งประเด็นด้านความมั่นคงแห่งชาติ และภาคครัวเรือนในสหรัฐ
นางอลิสซา ฟาราห์ โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์มีแผนที่จะกล่าวในสิ่งที่เขาเห็นว่ามีความสำคัญ โดยไม่สนใจว่าผู้ดำเนินรายการจะตั้งคำถามอะไร
"ท่านประธานาธิบดีจะตอบคำถามที่ท่านอยากตอบ ถ้าพิธีกรไม่ถามเรื่องเกี่ยวกับจีน ท่านก็จะพูดเรื่องของจีน รวมทั้งประวัติอื้อฉาวของคุณไบเดน" นางฟาราห์กล่าว
โฆษกทำเนียบขาวยังระบุว่า ปธน.ทรัมป์จะกล่าวเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐด้วย