นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในการเจรจาซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นที่สำคัญซึ่งได้แก่ การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนทั่วประเทศ และแผนการติดตามผู้ที่ติดเชื้อ
"ในขณะที่ประเทศของเรากำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ทำสถิติสูงสุดนั้น เราก็ยังรอคอยคณะบริหารของทำเนียบขาวที่จะยอมรับเงื่อนไขด้านสาธารณสุขของเรา ซึ่งรวมถึงแผนยุทธศาสตร์การตรวจหาเชื้อทั่วประเทศและการติดตามผู้ติดเชื้อ" นายดรูว์ แฮมมิลล์ โฆษกและรองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของนางเพโลซีกล่าว พร้อมระบุว่า นางเพโลซีและนายมนูชินใช้เวลาในการเจรจาประมาณ 52 นาทีในวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ
นางเพโลซีได้ออกแถลงการณ์ในวันจันทร์ โดยย้ำว่า "สหรัฐยังไม่อยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยในการเปิดโรงเรียนและเศรษฐกิจ นอกเสียจากว่า เราจะมีแผนการที่บังคับใช้ทั่วประเทศ ซึ่งได้แก่การตรวจหาเชื้อ การติดตามผู้ติดเชื้อ การบำบัดรักษา การสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม และมาตรการอื่นๆ ที่ยึดหลักการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 600 จุด และตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงเช่นกัน