นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเผชิญกับความผันผวนอย่างหนักในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งได้เข้ามาเป็นปัจจัยใหม่ที่ฉุดรั้งตลาด จากเดิมที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลอยู่แล้วจากผลกระทบของโควิด-19 รวมทั้งความล่าช้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ
ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด พุ่งขึ้นแตะระดับ 32.46 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. ขณะที่นักลงทุนต่างพากันชะลอซื้อหุ้นก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้
นักลงทุนที่เชื่อมั่นว่านายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต จะชนะการเลือกตั้งนั้น ได้พากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกและกลุ่มผู้ผลิตกัญชา เนื่องจากคาดว่าหุ้นเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากนโยบายของนายไบเดน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกาตคาดการณ์ว่า คณะบริหารของนายไบเดนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า
นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งแสดงความกังวลว่า หากโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะอย่างเหนือความคาดหมาย หรือผลการเลือกตั้งออกมาไม่แน่นอน ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้น เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในปี 2559 ซึ่งในเวลานั้น นักลงทุนต่างก็คาดการณ์ไว้แล้วว่าฮิลลารี คลินตัน จะได้รับชัยชนะ แต่ผลกลับกลายเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ ที่คว้าชัย
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนกล่าวว่า หากโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างราบรื่น ก็จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น โดยคาดว่าดัชนี S&P500 มีโอกาสพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,900 จุด