นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างปรากฏการณ์ด้วยการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ แต่จะฉุดราคาสินทรัพย์ในภูมิภาคเอเชีย
การคาดการณ์ดังกล่าวอ้างอิงจากปัจจัยขับเคลื่อนตลาดในช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะอย่างเหนือความคาดหมาย
ทั้งนี้ แม้โพลสำรวจบ่งชี้ว่าคะแนนนิยมของนายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตจะแซงหน้าปธน.ทรัมป์ แต่เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทในวอลล์สตรีทต่างแสดงท่าทีไม่มั่นใจว่า นายไบเดนจะเอาชนะปธน.ทรัมป์ได้จริงหรือไม่
นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนยังคาดว่า ราคาสินทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียอาจได้รับแรงกดดันหากปธน.ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากชัยชนะครั้งที่สองของปธน.ทรัมป์ย่อมหมายความว่า ข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นการค้า เทคโนโลยี และการลงทุนนั้น จะยังคงดำเนินต่อไป
ในขณะที่โพลและกระแสคาดการณ์ต่างๆ พุ่งเป้าไปในทางเดียวกันว่า นายไบเดนมีคะแนนนิยมนำหน้าปธน.ทรัมป์ แต่นักวิเคราะห์มองว่าปธน.ทรัมป์เคยสร้างปรากฏการณ์ช็อกโลกมาแล้วเมื่อครั้งที่เอาชนะนางฮิลลารี คลินตัน ในปี 2559 ด้วยคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College)
นักลงทุนบางกลุ่มยังกังวลว่า หากนายไบเดนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ก็อาจจะเกิดภาวะ "คลื่นสีน้ำเงิน" หรือ "Blue Wave" ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ในขณะเดียวกันก็ยังรั้งอำนาจในสภาผู้แทนราษฎรด้วย