มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ออกรายงานระบุว่า ความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ
"แม้ว่าการที่ยังไม่มีข้อสรุปต่อการเลือกตั้งอาจเพิ่มความผันผวนในตลาดการเงิน แต่เราประเมินว่าสถาบันของสหรัฐจะสามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความล่าช้าในการนับคะแนนเลือกตั้ง รวมทั้งการโต้แย้งผลการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้น โดยสอดคล้องกับกรอบนิติรัฐ โดยไม่ทำให้เกิดผลกระทบใดๆต่ออันดับความน่าเชื่อถือ" รายงานระบุ
ทั้งนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐได้สิ้นสุดลงแล้วในวันนี้ ขณะที่ทุกรัฐได้ปิดหีบเลือกตั้ง และนับคะแนนกันแล้ว แต่คาดว่าผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการอาจต้องรอต่อไปอีกหลายวัน เนื่องจากต้องรอผลการนับคะแนนจาก 3 รัฐ คือ รัฐมิชิแกน วิสคอนซิน และเพนซิลเวเนีย
ทั้ง 3 รัฐดังกล่าวต่างก็อยู่ในกลุ่ม Swing State ซึ่งเป็นรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน และมีจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Votes) รวมกันมากถึง 46 เสียง หรือคิดเป็น 1 ใน 5 ของจำนวน 270 เสียงซึ่งเป็นตัวเลขซึ่งนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน ต้องทำให้ได้ หากหวังได้รับชัยชนะในครั้งนี้
นอกจากนี้ รัฐจอร์เจีย และนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งต่างก็มีผลการนับคะแนนที่สูสีกันอย่างมากระหว่างนายไบเดน และปธน.ทรัมป์ ก็เป็นอีก 2 รัฐที่อาจจะต้องใช้เวลานับคะแนนมากขึ้น ขณะที่ยังคงมีการส่งบัตรเลือกตั้งเข้ามา โดยทั้ง 2 รัฐดังกล่าวมีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งรวมกัน 31 เสียง