การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐได้ผ่านพ้นมา 3 วันแล้ว และจากการนับคะแนนจนถึงขณะนี้ก็ใกล้ที่จะบ่งชี้ว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต จะคว้าชัยชนะ และก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46
หากนายไบเดนคว้าชัยชนะตามคาด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็จะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่พ่ายแพ้ในการลงชิงชัยประธานาธิบดีสมัยที่ 2 นับตั้งแต่ที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช จากพรรครีพับลิกัน พ่ายแพ้ต่อนายบิล คลินตันจากพรรคเดโมแครตในปี 2535
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์อาจได้สถิติใหม่เป็นรางวัลปลอบใจ ซึ่งเขาอาจไม่เต็มใจรับ โดยปธน.ทรัมป์จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งจากผู้มีสิทธิลงคะแนน (Popular Vote) สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งในสหรัฐ
ล่าสุด จากการนับคะแนนเลือกตั้งทุกรัฐจนถึงขณะนี้ ปธน.ทรัมป์ได้รับ Popular Vote จำนวน 69,655,389 เสียง ซึ่งมากกว่าจำนวน 65,853,514 เสียงที่นางฮิลลารี คลินตันได้รับในปี 2559
นอกจากนี้ Popular Vote ที่ปธน.ทรัมป์ได้รับในขณะนี้ ยังมากขึ้น 6.5 ล้านเสียงเมื่อเทียบกับในปี 2559 ซึ่งเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ส่วน Popular Vote ของนายไบเดนขณะนี้อยู่ที่ 73,738,164 เสียง ซึ่งก็ได้ทำลายสถิติ Popular Vote สูงสุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของสหรัฐไปแล้ว
ขณะนี้ทั่วโลกต่างจับตาไปที่การนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่รัฐจอร์เจีย ซึ่งมีคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) สูงถึง 16 เสียง ซึ่งหากนายไบเดนคว้าชัยชนะในรัฐนี้ ก็จะส่งให้เขาก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่
สำนักข่าวบลูมเบิร์กและเอพีรายงานว่า นายไบเดนยังคงมีคะแนนนำปธน.ทรัมป์ โดยได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 264 เสียง ขณะที่ปธน.ทรัมป์ได้ 214 เสียง โดยนายไบเดนต้องการอีกเพียง 6 เสียงเท่านั้นก็จะได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งหรือ 270 เสียงจากทั้งหมด 538 เสียง เพื่อชนะการเลือกตั้ง
ล่าสุด จากการนับคะแนน 99% ในรัฐจอร์เจีย นายไบเดนสามารถพลิกมาแซงปธน.ทรัมป์เป็นครั้งแรก โดยเฉือนกันเพียง 917 คะแนน