สื่อต่างประเทศรายงานว่า จีนและรัสเซียยังคงไม่ได้ออกมาแสดงความยินดีกับนายโจ ไบเดน ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยจีนระบุว่าจะปฏิบัติตามธรรมเนียมปฎิบัติตามปกติ ขณะที่รัสเซียอ้างถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยืนยันที่จะฟ้องร้องทางกฎหมายเพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ นายไบเดนได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งในรัฐต่างๆ เพียงพอที่จะชนะการเลือกตั้ง และได้เริ่มวางแผนที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ในวันที่ 20 ม.ค. ขณะที่ปธน.ทรัมป์ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และวางแผนที่จะดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมาย
บรรดาพันธมิตรรายใหญ่ที่สุดและใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐในยุโรป, ตะวันออกกลางและเอเชียต่างรีบแสดงความยินดีกับนายไบเดนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ปธน.ทรัมป์ยังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง เช่นเดียวกับประเทศสหายของทรัมป์ อาทิ อิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย
นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเรียกร้องเมื่อวันจันทร์ให้สหภาพยุโรปและสหรัฐทำงานเคียงข้างกัน โดยชื่นชมไบเดนว่าเป็นผู้นำที่มีประสบการณ์ซึ่งรู้จักเยอรมนีและยุโรปเป็นอย่างดี พร้อมทั้งได้เน้นย้ำถึงคุณค่าและผลประโยชน์ร่วมกันของพันธมิตรนาโต้
ส่วนจีนและรัสเซียนั้นยังคงสงวนท่าทีอย่างระมัดวัง โดยนายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนเปิดเผยในการแถลงข่าวว่า "เราทราบว่า นายไบเดนประกาศชัยชนะในการเลือกตั้ง แต่เราเข้าใจว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะถูกตัดสินตามกฎหมายและกระบวนการต่างๆ ของสหรัฐ"
ขณะที่คาดว่าไบเดนจะยังคงรักษาท่าทีที่แข็งกร้าวกับจีน โดยเขาเรียกประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนว่าเป็นอันธพาล และยืนยันที่จะกดดัน, โดดเดี่ยวและลงโทษจีนนั้น ไบเดนก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายที่วัดผลได้และเป็นไปแบบพหุภาคีมากกว่าทรัมป์
ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียยังคงเงียบเฉยนับตั้งแต่ไบเดนประกาศชัยชนะ โดยดูเหมือนปูตินไม่ค่อยพอใจกับถ้อยแถลงต่อต้านรัสเซียของไบเดน แต่กลับขานรับความเห็นของไบเดนเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "เราคิดว่าเป็นการเหมาะสมที่จะรอการประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ"
ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไบเดนได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 เสียงที่จะชนะการเลือกตั้ง และได้คะแนนเสียงจากประชาชนแซงหน้าทรัมป์กว่า 4 ล้านเสียงทั่วประเทศ