สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ ทางรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ประกาศเพิ่มข้อจำกัดวีซ่ากับเจ้าหน้าที่จีนในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน
นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า ข้อจำกัดดังกล่าวจะส่งผลต่อเจ้าหน้าที่ที่เชื่อว่ามีความรับผิดชอบหรือมีส่วนร่วมในการปราบปรามศาสนิกชน กลุ่มชนกลุ่มน้อย ผู้คัดค้านรัฐบาล และอื่น ๆ
แถลงการณ์ระบุว่า "เจ้าหน้าที่จีนใช้ข้อจำกัดที่เข้มงวดต่ออิสรภาพในการแสดงออก ศาสนาหรือความเชื่อ ความสัมพันธ์ และสิทธิ์ที่จะรวมตัวอย่างสันติของประชาชนจีน สหรัฐได้แสดงความชัดเจนว่าผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าวไม่ได้รับการต้อนรับในประเทศเรา"
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนนั้นย่ำแย่ลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายสิบปี หลังทั้งสองประเทศมีปัญหาขัดแย้งกันมากมายตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 การใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง การค้า และการจารกรรมข้อมูล
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนเพิ่มอีกหลายสิบแห่ง รวมถึงบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง อินเตอร์เนชันแนล คอร์ป (SMIC) และบริษัท SZ DJI Technology Co ของจีนซึ่งเป็นบริษัทผลิตโดรนรายใหญ่ที่สุดของโลก
นอกจากนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายชาด วูล์ฟ รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐเปิดเผยว่า ทางกระทรวงกำลังพิจารณาที่จะเพิ่มข้อจำกัดต่อจีน ซึ่งเขามองว่าเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง