รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มบังคับใช้มาตรการห้ามไม่ให้นักเดินทางจากทั่วโลกที่ไม่มีแหล่งพำนักอยู่ในญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนม.ค.2564 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ ซึ่งสามารถแพร่กระจายเชื้อได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
ส่วนพลเมืองญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในญี่ปุ่นซึ่งเดินทางมาจากประเทศและดินแดนที่ได้รับการยืนยันว่ามีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดชนิดกลายพันธุ์นั้น จะต้องแสดงผลทดสอบการติดเชื้อเป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง และต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้ออีกครั้งเมื่อเดือนทางมาถึงญี่ปุ่น โดยเริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 30 ธ.ค. ไปจนถึงสิ้นเดือนม.ค.
ทั้งนี้ ไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ซึ่งถูกตรวจพบเป็นครั้งแรกในสหราชอาณาจักร ปัจจุบันพบว่ามีการแพร่ระบาดไปยังมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก รวมถึงเกาะฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักธุรกิจและนักศึกษาจาก 10 ประเทศในเอเชีย อาทิ จีน เกาหลีใต้ รวมถึงไต้หวัน ได้มีการลดข้อจำกัดลงเพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านั้นต้องได้รับผลกระทบจากมาตรการที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศออกมาล่าสุดนี้
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกคำสั่งห้ามชาวต่างชาติที่มีประวัติการเดินทางไปยังสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตรวจพบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดชนิดกลายพันธุ์ ไม่ให้เดินทางเข้าประเทศ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว (24 ธ.ค.)
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหราชอาณาจักรได้ออกมาเปิดเผยว่า มีการตรวจพบการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 เป็นครั้งแรกในเดือนก.ย. โดยไวรัสดังกล่าวสามารถแพร่กระจายเชื้อได้เร็วขึ้นถึง 70% แต่ยังคงไม่มีหลักฐานว่ามีอัตราต่อชีวิตมากขึ้นหรือสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้