สื่อต่างประเทศหลายสำนัก ซึ่งรวมถึงซีเอ็นเอ็นและเอพีต่างก็คาดการณ์ว่า นายราฟาเอล วอร์นอค และนายโจน ออสซอฟฟ์ จากพรรคเดโมแครต จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารัฐจอร์เจีย แม้คะแนนของนายวอร์นอคและนายออสซอฟฟ์ จะนำนางเคลลี ลอฟเฟลอร์และนายเดวิด เพอร์ดิวจากพรรครีพับลิกันอยู่ไม่มากนักก็ตาม
ทั้งนี้ แม้การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งที่สองของรัฐจอร์เจียได้เสร็จสิ้นลงแล้ว แต่ทางการรัฐจอร์เจียได้ประกาศยุติการนับคะแนนไว้ชั่วคราว และจะเริ่มทำการนับคะแนนในช่วงเช้าวันพุธตามเวลาสหรัฐ โดยคาดว่า ประชาชนจะสามารถรู้ผลการนับคะแนนได้ภายในช่วงเที่ยงของวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาไทย
การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในรัฐจอร์เจียครั้งนี้ถือเป็นเกมการเมืองที่มีเดิมพันสูงสำหรับพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน โดยจะตัดสินว่าพรรคใดสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยหากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง ก็จะทำให้ทางพรรคสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร และเอื้อต่อการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐภายใต้รัฐบาลของนายไบเดน หลังจากที่ถูกขัดขวางในสมัยของปธน.ทรัมป์
ขณะนี้ นางเคลลี ลอฟเฟลอร์ และนายเดวิด เพอร์ดิว จากพรรครีพับลิกัน ครองตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาในรัฐจอร์เจีย ซึ่งหากทั้งสองสามารถรักษาเก้าอี้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็จะทำให้พรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาต่อไป ด้วยคะแนนเสียง 52 ต่อ 48 เสียง
อย่างไรก็ดี ถ้าหากนางลอฟเฟลอร์ และนายเพอร์ดิว พ่ายแพ้ให้แก่นายราฟาเอล วอร์นอค และนายโจน ออสซอฟฟ์ ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต ทางพรรคเดโมแครตก็จะสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยมีคะแนนเสียง 50 ต่อ 50 เสียง รวมกับอีก 1 เสียงจากนางคามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะใช้สิทธิลงคะแนนเสียงดังกล่าวในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เพื่อชี้ขาดในกรณีที่วุฒิสมาชิกลงคะแนนเสียงเท่ากันในญัตติใดญัตติหนึ่ง