นายสเตนี โฮเยอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐคาดการณ์ว่า สภาผู้แทนฯจะเริ่มการพิจารณาเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่งในวันพุธนี้ (13 ม.ค.) หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ปลุกระดมให้เกิดการจลาจลก่อนม็อบสนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปก่อเหตุรุนแรงในทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายโฮเยอร์เปิดเผยกับสมาชิกพรรคเดโมแครตว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเริ่มกระบวนการถอดถอนปธน.ทรัมป์ในวันพุธนี้ หากรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ไม่ตอบสนองต่อคำเรียกร้องที่จะพิจารณาใช้ญัตติที่ 25 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐที่จะปลดปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ หากกระบวนการถอดถอนผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนฯ ก็จะทำให้ทรัมป์กลายเป็นปธน.คนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐที่ถูกยื่นญัตติถอดถอนถึงสองครั้ง
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และทำให้นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตันประกาศขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตันออกไปอีก 15 วัน จนกว่าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน จะผ่านพ้นไป
นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของคณะบริหารปธน.ทรัมป์ โดยล่าสุดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครตจำนวน 3 รายได้ยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่งในความผิดข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจล
ญัตติดังกล่าวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวเท็จเกี่ยวกับการที่เขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีเพราะมีการโกงการเลือกตั้ง และได้ปลุกระดมมวลชนเพื่อบุกเข้าไปยังสภาคองเกรสในวันพุธที่ผ่านมาเพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ