ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปฏิเสธที่จะยอมรับข้อกล่าวหาที่ว่า เขาได้ยุยงปลุกปั่นให้กลุ่มผู้สนับสนุนของเขาบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธที่แล้วเพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี
"ประชาชนคิดว่าสิ่งที่ผมพูดนั้น เหมาะสมแล้ว และคำพูดของผมไม่มีเนื้อหาที่ยั่วยุแต่อย่างใด และส่วนตัวผมเองนั้น ผมไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง" ปธน.ทรัมป์กล่าว โดยอ้างถึงถ้อยแถลงที่เขากล่าวกับบรรดาผู้สนับสนุน ก่อนที่กลุ่มผู้สนับสนุนเหล่านี้จะตัดสินใจบุกอาคารรัฐสภา
นอกจากนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกที่ปธน.ทรัมป์แสดงความเห็นต่อผู้สื่อข่าวนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จลาจลในรัฐสภา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน
ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า การถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง เป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับสหรัฐ และอาจสร้างความไม่พอใจให้กับชาวอเมริกันจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยังได้เรียกร้องให้นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี ใช้บทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25 (25th Amendment) เพื่อปลดปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี รายงานล่าสุดระบุว่า นายเพนซ์ได้แจ้งให้นางเพโลซีทราบว่า เขาจะไม่ถอดถอนปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ โดยจดหมายที่นายเพนซ์ส่งถึงนางเพโลซีระบุว่า "ผมไม่เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติของเรา หรือสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญของเรา"
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะทำการโหวตญัตติเรียกร้องให้นายเพนซ์ และคณะรัฐมนตรี ใช้บทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25 เพื่อปลดปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ซึ่งคาดว่าญัตติดังกล่าวจะผ่านการรับรองจากสภาผู้แทนฯ แต่ก็อาจถูกคว่ำในวุฒิสภา เนื่องจากขาดเสียงสนับสนุนที่เพียงพอ นอกจากนี้ แม้สภาผู้แทนฯให้การรับรองญัตติดังกล่าว แต่ก็ไม่มีอำนาจที่จะบังคับให้นายเพนซ์ปลดปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง และที่ผ่านมา นายเพนซ์ก็มีท่าทีปฏิเสธที่จะดำเนินการดังกล่าว