นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีของสหรัฐกล่าวยืนยันที่จะดำรงรักษาประวัติศาสตร์ของสหรัฐ และรับประกันว่าจะมีการถ่ายโอนอำนาจอย่างปลอดภัยให้กับนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาเกิดเหตุจลาจลที่กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐเพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะของนายไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
นายเพนซ์กล่าวก่อนเข้ารับฟังรายงานสรุปด้านความมั่นคงที่สำนักงานจัดการภาวะฉุกเฉินของรัฐบาลกลาง (FEMA) และในระหว่างประชุมกับกองกำลังพิทักษ์ชาติที่ดูแลอาคารรัฐสภา โดยนายเพนซ์เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐที่ถูกพาไปหลบซ่อนตัวในระหว่างที่เกิดเหตุจลาจลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
"เราทุกคนต่างผ่านเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. และตามที่ปธน.ทรัมป์แถลงอย่างชัดเจนแล้วเมื่อวานนี้ เรามุ่งมั่นที่จะถ่ายโอนอำนาจอย่างสงบเรียบร้อยให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งชาวอเมริกันสมควรได้รับ" นายเพนซ์กล่าวในงานสาธารณะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุจลาจลที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย
นายเพนซ์ระบุว่า นายไบเดนและนางคามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.นี้ "ในลักษณะที่สอดคล้องกับประวัติศาสตร์และประเพณีของเรา รวมถึงการให้เกียรติแก่ชาวอเมริกันและประเทศสหรัฐ"
อย่างไรก็ดี นายเพนซ์เป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานที่ภักดีที่สุดของปธน.ทรัมป์มาอย่างยาวนาน แต่ได้สร้างความโกรธเคืองให้แก่ปธน.ทรัมป์ เมื่อเขาปฏิเสธที่จะขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยในระหว่างที่เกิดเหตุจลาจล กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บางรายได้กล่าวถึงการลอบสังหารนายเพนซ์ เนื่องจากเป็นผู้ทรยศ ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์และนายเพนซ์พยายามที่จะประสานรอยร้าวกันในระหว่างการประชุมที่ห้องทำงานรูปไข่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่บรรดาที่ปรึกษาระบุว่า พวกเขารู้สึกผิดหวังอย่างมากกับวิธีการปฎิบัติของปธน.ทรัมป์ต่อนายเพนซ์