แอนโธนี บลิงเคน ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศคนใหม่ของสหรัฐให้คำมั่นว่า จะฟื้นฟูความเป็นผู้นำของสหรัฐบนเวทีโลก และเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายการทูตแต่เพียงฝ่ายเดียวที่ใช้อยู่ปัจจุบัน แต่ก็จะยังคงใช้แนวทางที่แข็งกร้าวกับจีนต่อไป
"ความเป็นผู้นำของสหรัฐยังคงสำคัญ" นายบลิงเคนกล่าวในระหว่างการพิจารณาเพื่อยืนยันการแต่งตั้งเขาในวุฒิสภาสหรัฐ พร้อมเตือนว่านโยบาย "America First" ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั่นบ่อนทำลายความร่วมมือพหุภาคีอย่างมาก
"เมื่อเราไม่ได้มีส่วนร่วม เมื่อเราไม่ได้เป็นผู้นำ ก็จะมีประเทศใดประเทศหนึ่งพยายามจะแทนที่เรา แต่ไม่ใช่ในแนวทางที่ดูเหมือนจะเพิ่มผลประโยชน์หรือมูลค่าของเรา หรือบางที อาจจะแย่ถึงขนาดที่ไม่มีใครขึ้นมาแทน และมันจะเกิดความวุ่นวาย"
นายบลิงเคนกล่าวว่า ด้วยการแสดงความเป็นผู้นำ และไม่กระทำการแต่เพียงฝ่ายเดียว สหรัฐจะสามารถเอาชนะจีนได้ท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และรับมือกับความท้าทายระดับโลก เช่น การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภาวะโลกร้อน ขณะเดียวกันก็เป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพันธมิตรหลักๆ ด้วย
นายบลิงเคนยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของจีนนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จีนเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อสหรัฐในแง่ของผลประโยชน์ของเราและผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน
นายบลิงเคนได้ยอมรับว่า ปธน.ทรัมป์ทำถูกแล้วที่ใช้ท่าทีที่แข็งกร้าวกับจีน แม้จะระบุว่า เขาไม่เห็นด้วยอย่างมากกับวิธีของคณะทำงานของปธน.ทรัมป์ในหลายประเด็นก็ตาม พร้อมเสริมว่า "หลักการขั้นพื้นฐานนั้นถูกต้อง และผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อนโยบายต่างประเทศของเราได้อย่างแท้จริง" สำนักข่าวเกียวโดรายงาน