นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) กล่าวแสดงความยินดีที่สนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์มีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้
นายกูเตอร์เรส กล่าวว่า "ผมรู้สึกยินดีที่ได้เห็นว่าสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์มีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ โดยเป็นสนธิสัญญาว่าด้วยการปลดอาวุธนิวเคลียร์ระดับพหุภาคีฉบับแรกในรอบกว่า 20 ปี และเป็นก้าวสำคัญสู่เป้าหมายของโลกที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งยังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการสนับสนุนแนวทางแบบพหุภาคีในการปลดอาวุธนิวเคลียร์"
นอกจากนี้ เขายังกล่าวยกย่องทุกชาติที่ร่วมลงนามให้สัตยาบันรับรองสนธิสัญญาฉบับนี้ ตลอดจนบทบาทที่สำคัญของภาคประชาสังคมในการเจรจาต่อรองและทำให้สนธิสัญญาฉบับนี้มีผลบังคับใช้
เลขาฯ UN เปิดเผยว่า ผู้รอดชีวิตจากเหตุระเบิดนิวเคลียร์และการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นประจักษ์พยานที่น่าเศร้าและเป็นพลังทางศีลธรรมที่อยู่เบื้องหลังสนธิสัญญาฉบับนี้ การบังคับใช้จึงเป็นการยกย่องการสนับสนุนที่ยาวนานของพวกเขา
"ผมรอคอยที่จะปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากสนธิสัญญาฉบับนี้ รวมถึงการเตรียมการสำหรับการประชุมครั้งแรกของรัฐภาคี" นายกูเตอร์เรสกล่าวเสริม
อาวุธนิวเคลียร์เพิ่มภัยอันตรายขึ้นอย่างมาก และโลกจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อให้แน่ใจว่ามีการกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ และป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบที่เป็นหายนะต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม นายกูเตอร์เรส กล่าวว่า การกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ยังคงเป็นลำดับความสำคัญสูงสุดของ UN "ผมขอเรียกร้องให้ทุกชาติร่วมมือกันเพื่อตระหนักถึงความมุ่งมั่นครั้งนี้ ซึ่งจะพัฒนามาสู่ความมั่นคงและความปลอดภัยร่วมกัน"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สนธิสัญญาฉบับนี้ได้รับการรับรองเมื่อเดือนก.ค. 2560 และเปิดให้ลงนามในเดือนก.ย. ของปีเดียวกัน ฮอนดูรัสเป็นประเทศที่ 50 ที่ลงนามให้สัตยาบันสนธิสัญญาฉบับนี้เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ม.ค. 2564 หรือ 90 วันหลังจากการลงนามสัตยาบัน การยอมรับ การอนุมัติ หรือภาคยานุวัติครั้งที่ 50